ผู้นำทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความยินดีที่ได้พบ และแสดงความพร้อมที่จะขยายขอบเขตความร่วมมือให้ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความมั่นคง ความร่วมมือทางเทคนิค การท่องเที่ยว และการศึกษา โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศจะแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งในโอกาสนี้ ประธานาธิบดีโคลอมเบียกล่าวเชิญ นายกรัฐมนตรีเยือนโคลอมเบียอย่างเป็นทางการในโอกาสแรกที่สะดวก
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจว่า ไทยพร้อมส่งเสริมการค้าและการลงทุนกับโคลอมเบียในสาขาต่างๆ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว พลังงาน และทรัพยากรธรรมชาติ โดยขอเชิญชวนผู้แทนภาคธุรกิจโคลอมเบียเยือนไทยด้วย รวมทั้งพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งสภาธุรกิจไทย-โคลอมเบีย นอกจากนี้การทำ FTA กับโคลอมเบียในอนาคต ไทยพร้อมศึกษาความเป็นไปได้และแลกเปลี่ยนข้อมูลทางเทคนิค เพราะไทยมองว่าโคลอมเบียมีศักยภาพในการเป็นสะพานเชื่อมไทยกับประเทศกลุ่มลาตินอเมริกา ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโคลอมเบียก็เล็งเห็นความสำคัญและศักยภาพของประเทศไทย ที่จะเป็นเหมือนประตูและสะพานเชื่อมโคลอมเบียกับอาเซียนเช่นกัน
ทั้งนี้ ไทยเห็นควรให้มีการยกระดับความสัมพันธ์ โดยการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมในระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งฝ่ายไทยได้ส่งร่างบันทึกความตกลงที่จะจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมให้ฝ่ายโคลอมเบียพิจารณาแล้ว
ส่วนความร่วมมือด้านความมั่นคงกับโคลอมเบีย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการแลกเปลี่ยนระหว่างวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร และสถาบันป้องกันประเทศของโคลอมเบีย รวมทั้งความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านความมั่นคง รวมทั้งความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งโคลอมเบียมีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ อย่างยิ่งการแก้ปัญหาความขัดแย้ง
ประธานาธิบดีโคลอมเบียเห็นพ้องกับนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในลักษณะคลัสเตอร์ และ Thailand +1 ซึ่งแนวความคิดของนายกรัฐมนตรีจะยิ่งทำให้แพ็คเกจการท่องเที่ยวมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น และสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนเพื่อศึกษาลู่ทางความร่วมมือ ประธานาธิบดีโคลอมเบียได้ชื่นชมประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ไทยและโคลอมเบียเห็นพ้องในการขยายความร่วมมือในสาขาใหม่ๆ เช่น ความร่วมมือการต่อต้านอาชญากรรม ส่วนด้านการศึกษา ไทยพร้อมที่จะส่งเสริมเครือข่ายระหว่างมหาวิทยาลัยรัฐของไทยและโคลอมเบีย รวมทั้งสนับสนุนความร่วมมือด้านการศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างๆในโคลอมเบีย
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณในฐานะตัวแทนรัฐบาลและประชาชนไทย ที่โคลอมเบียให้การสนับสนุนไทยให้เป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ของกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก และเชื่อมั่นว่าไทยจะสามารถเป็นสามารถเชื่อมที่สำคัญระหว่างอาเซียนกับกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก โดยเฉพาะในปี 2559 ที่ไทยจะเป็นผู้ประสานงานฝ่ายอาเซียน นอกจากนี้ในฐานะประธานของกลุ่ม G77 วาระปี 2559 ไทยพร้อมประสานงานและผลักดันผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนาอย่างเต็มความสามารถ
ส่วนสถานการณ์การเมืองไทย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณโคลอมเบียที่เข้าใจสถานการณ์ โดยไทยยังคงยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตยพร้อมยืนยันว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยมีเสถียรภาพ และมีบรรยายที่เกื้อกูลต่อการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ
******************************
กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ / สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th