พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า ชายหนุ่มชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช อายุ ๒๖ ปี พิการตาบอดทั้ง ๒ ข้าง มาตั้งแต่กำเนิด แต่มีความสามารถเชิดหนังตะลุง สร้างความสนุกสนานเรียกเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมได้อย่างเฮอา จนได้รับความนิยมอย่างสูง เรียกได้ว่าเป็นหนังตะลุงเงินล้านนั้น ตนขอชื่นชมชายพิการดังกล่าว ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของคนพิการที่มีความมานะพยายามพัฒนาตนเองในการแสดงความสามารถโดยไม่นำความพิการมาเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต สำหรับกรณีครอบครัวพี่น้อง ๓ คน ประกอบด้วยพี่ชายตนโต อายุ ๘๓ ปี พิการตาบอดสนิททั้ง ๒ ข้าง น้องสาวคนรอง อายุ ๗๙ ปี มีสายตาฝ้าฟาง และน้องสาวอีกคน อายุ 75 ปี ป่วยด้วยอาการกระดูกหลังร้าวเดินไม่ค่อยได้ ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก อาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านไม้สภาพบ้านเก่าผุพังมากไม่สามารถบังแดดบังฝนได้ ครอบครัวมีฐานะยากจน มีเพียงเบี้ยผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการเดือนละ ๗๐๐ – ๘๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน ไม่เพียงพอในการใช้ประทังชีวิต ที่จังหวัดสุรินทร์ นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ (พมจ.สุรินทร์) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้ถูกสุขลักษณะเหมาะสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ รวมทั้งดูแลในด้านต่างๆในระยะยาวต่อไป
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ร่วมกับองค์กรพัฒนาเอกชน พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือหญิงสาวสัญชาติเมียนมา ๗ คน ที่ทำงานอยู่ในสถานค้าประเวณีแห่งหนึ่งในเขตอำเภอเมืองกาญจนบุรี และพบข้อมูลว่า เด็กสาวบางคนมีอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี นั้น ตนได้รับรายงานจากอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชนเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯเรียบร้อยแล้ว และได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี (พมจ.กาญจนบุรี) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในภารกิจกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และหากพบว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเยียวยาสภาพจิตใจและคุ้มครองผู้เสียหายต่อไป สำหรับกรณีแม่อายุ ๓๔ ปี พาลูกสาววัย ๑๒ ปี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากถูกอาเขยอายุ ๓๓ ปี ล่อลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพร ล่าสุดเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งช่วยเหลือเด็กหญิงดังกล่าวในเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ ตนได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเยียวยาสภาพจิตใจเด็กอย่างใกล้ชิตและช่วยเหลือด้านต่างๆตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th