ในที่ประชุมฯ มีการส่งเสริมการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ฉบับใหม่ (พ.ศ. 2559-2563) โดยที่ผู้นำอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลีมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือให้บรรลุเป้าหมาย
ภายหลังการประชุม พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่อาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลีมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดแน่นแฟ้น โดยเฉพาะความร่วมมือบนพื้นฐานของกรอบและกลไกที่มีอยู่ โดยสนับสนุนให้นำแผนปฏิบัติการอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลีฉบับใหม่เพื่อดำเนินการตามปฏิญญาร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เพื่อสันติภาพและความรุ่งเรือง รวมทั้งการนำผลการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ ที่เมืองปูซาน เมื่อปีที่แล้วไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม
ในด้านเศรษฐกิจ ไทยสนับสนุนให้ใช้ประโยชน์จากความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ให้เต็มศักยภาพ เพื่อบรรลุเป้าหมายการค้า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563 และเร่งรัดการจัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ค้าขายกันได้มากขึ้น มีอุปสรรคน้อยลง และบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความสำเร็จด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของสาธารณรัฐเกาหลีเป็นแรงบันดาลใจของหลายประเทศ ไทยจึงหวังที่จะเรียนรู้ประสบการณ์และแนวปฏิบัติอันเป็นเลิศในสาขาที่สาธารณรัฐเกาหลีมีความเชี่ยวชาญ เช่น การบริหารจัดการน้ำและป่าไม้ที่ยั่งยืน การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล และเทคโนโลยีสารสนเทศ ไทยขอสนับสนุนให้สาธารณรัฐเกาหลีส่งเสริมโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนและการฝึกอบรมแก่นิสิตนักศึกษา และเจ้าหน้าที่ของประเทศสมาชิกอาเซียน
นอกจากนี้ ไทยขอเชิญชวนนักธุรกิจเกาหลี โดยผ่านสภาธุรกิจอาเซียน-เกาหลีใต้ ในการแสวงโอกาสจากการที่อาเซียนจะกลายเป็นประชาคมที่เป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว ซึ่งภูมิภาคแห่งนี้เป็นแหล่งภาคธุรกิจเอกชนและฐานของ SMEs ที่มีศักยภาพในตลาดโลก
ในเรื่องความเชื่อมโยงในภูมิภาค ไทยและอาเซียนสนับสนุนให้สาธารณรัฐเกาหลีมีบทบาทมากขึ้นในการปฏิบัติตาม MPAC (Master Plan on ASEAN Connectivity หรือ แผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน) เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงถึงกันแบบไร้รอยต่อในภูมิภาค โดยให้ความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ การแสวงหาทุนจากแหล่งต่างๆ และการลงทุนในรูปแบบหุ้นส่วนภาครัฐและเอกชน
ในเรื่องความมั่นคงในภูมิภาค นายกรัฐมนตรียินดีต่อพัฒนาการในเชิงบวกในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ไทยชื่นชมข้อริเริ่มของประธานาธิบดี ปัก กึน-ฮเย ในเรื่องความร่วมมือและสันติภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ (NAPCI : แนปซี่) และการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดไตรภาคีที่กรุงโซล ไทยพร้อมสนับสนุนกระบวนการนี้เพราะสำคัญต่อการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ
เป้าหมายของ NAPCI (แน็ปซี่) สอดคล้องกับเป้าหมายของอาเซียน จึงควรแสวงหาแนวทางเพื่อให้ทั้งสองภูมิภาคสนับสนุนซึ่งกันและกันให้มากยิ่งขึ้น
โดยที่ภูมิภาคนี้ ยังเผชิญกับปัญหาความมั่นคงรูปแบบใหม่และความท้าทายใหม่ นายกรัฐมนตีจึงได้เชื้อเชิญให้สาธารณรัฐเกาหลีใช้ประโยชน์จากกลไกใหม่ ๆ ของอาเซียนในการรับมือกับปัญหาดังกล่าวโดยตรง เช่น สำนักงาน ป.ป.ส. อาเซียน และศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน
***************************************
กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th