รมว.พม. เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ ครั้งที่ ๒๓ ภายใต้หัวข้อ “ความเจริญรุ่งเรืองและวิกฤติ : วาทกรรมสังคมสงเคราะห์และนโยบายสังคม”

ข่าวทั่วไป Thursday October 22, 2015 15:35 —สำนักโฆษก

วันนี้ (๒๒ ต.ค. ๕๘) เวลา ๑๑.๔๕ น. พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ (The Joint Regional Conference APASWE & IFSW – ASIA Pacific, Bangkok, Thailand) ครั้งที่ ๒๓ ภายใต้หัวข้อ "ความเจริญรุ่งเรืองและวิกฤติ : วาทกรรมสังคมสงเคราะห์และนโยบายสังคม” โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนทั้งสิ้น ๓๐๐ คน ประกอบด้วย นักวิชาการด้านการศึกษาสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม นักสังคมสงเคราะห์ ผู้ปฏิบัติงานด้านสวัสดิการสังคม นักวิชาการ นักศึกษา และอาสาสมัครที่ทำงานเกี่ยวข้อง จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ

พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมสำหรับคนไทยทั้งในและต่างประเทศ ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งสมาคมสถาบันการศึกษาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์แห่งเอเชียและแปซิฟิก สมาพันธ์นักสังคมสงเคราะห์แห่งเอเชียและแปซิฟิก และสมาคมสภาการศึกษาด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคมไทย จัดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติครั้งที่ ๒๓ ภายใต้หัวข้อ "ความเจริญรุ่งเรืองและวิกฤติ : วาทกรรมสังคมสงเคราะห์และนโยบายสังคม” ระหว่างวันที่ ๒๐ – ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๘ เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ของนักสังคมสงเคราะห์ นักสวัสดิการสังคม และผู้ปฏิบัติงานในองค์การสวัสดิการสังคมของภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ รวมทั้งการทบทวนพัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมทั้งในเชิงวิชาการและเชิงวิชาชีพในงานสังคมสงเคราะห์ ควบคู่ไปกับ การประเมินสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งได้สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองและวิกฤติการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

"ปัจจุบัน ปัญหาความยากจน การเลือกปฏิบัติ การแสวงประโยชน์จากการค้ามนุษย์ หรือการเคลื่อนย้ายแรงงาน อย่างไม่ถูกกฎหมายยังคงเป็นปัญหาทางสังคมที่สำคัญที่ทุกหน่วยงานและองค์กรมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว มาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง โดยสร้างมาตรการ กลไก การปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อต่อสู้และบรรเทาวิกฤติการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม วิชาชีพสังคมสงเคราะห์นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยในการแก้ไขปัญหาสังคม และจัดการกับวิกฤติการณ์ต่างๆ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในทุกมิติให้แก่บุคคล ครอบครัว ชุมชน และสังคม ทั้งนี้ ขอให้ผู้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกันในการจัดการกับวิกฤติการณ์และปัญหาสังคมต่างๆ ที่ยิ่งนับวันจะมีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น โดยส่งเสริมงานด้านสวัสดิการสังคมให้สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรในภูมิภาคนี้ร่วมกันต่อไป” พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวท้าย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ