เป็นเรื่องระดับประเทศ ทุกภาคส่วนร่วมมือแก้ไขปัญหาให้เป็นผลงานประเทศชาติ
พลโท จารุวุฒิ ศิระพลานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในการประชุมหารือร่วมระหว่างกระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และสำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เพื่อพิจารณาถึงความร่วมมือในการดำเนินการสำรวจข้อมูลสถานการณ์แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายของประเทศไทย ณ ห้องประชุมมิตรไมตรี 2 ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยกล่าวว่า ตามที่กระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกาประเมินให้ประเทศไทยมีการดำเนินการภายในประเทศปี 2557 เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานเด็ก อยู่ในระดับที่มีความสำเร็จมาก (Significant Advancement) ซึ่งมีเพียง 13 ประเทศ จาก 140 ประเทศที่ผ่านการประเมินในระดับที่มีความสำเร็จมาก ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ต้องหารือเพื่อรักษามาตรฐานการดำเนินงานดังกล่าวเอาไว้
“เรื่องสถานการณ์การใช้แรงงานเด็กเป็นเรื่องระดับประเทศ มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและชื่อเสียงของประเทศ เพราะฉะนั้นในการดำเนินการใดก็ตาม ต้องเป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่จะช่วยกันให้ประเทศของเราเดินหน้าต่อไปได้ เพื่อให้เป็นผลงานของประเทศชาติ” เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในรายงานการประเมินผลของปี 2557 ดังกล่าวมีเรื่องที่ประเทศไทยจะต้องจัดทำรายงานผลการสำรวจสถานการณ์การใช้แรงงานเด็กเพื่อไม่ให้ มีผลต่อการถูกปรับลดระดับลง ซึ่งสำนักงานสถิติแห่งชาติเป็นหน่วยงานของรัฐที่เป็นที่ยอมรับจากประเทศไทยและนานาชาติได้เข้ามาช่วยทำงานร่วมกันเพื่อให้ประเทศไทยได้รับการปลดออกจากการถูกขึ้นบัญชีเนื่องมาจากประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่ามีการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ ในสินค้า 5 ประเภท ประกอบด้วย กุ้ง อ้อย ปลา เครื่องนุ่งห่ม และสื่อลามกเกี่ยวกับเด็ก ดังนั้นถ้าเราสามารถปลดล็อคสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่งได้ก็จะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศดีขึ้น
นางสาวพรรณี ศรียุทธศักดิ์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า สำหรับข้อมูลผลการสำรวจสถานการณ์การใช้แรงงานเด็กในประเทศไทย นอกจากจะตอบโจทย์รายงานสถานการณ์การใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายของกระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกาแล้ว เป้าหมายจากนั้นคือสามารถปลดสินค้าอ้อยที่กระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริการะบุว่ามีการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ ทั้งนี้ในเบื้องต้นจะต้องมีการรายงานผลการดำเนินงานภายในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ เพื่อจะรายงานผลการประเมินอีกครั้งภายในเดือนพฤษภาคม 2559 ต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th