"จังหวัดที่มีเด็กที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับเงินอุดหนุนสูงสุด 3 อันดับแรกคือ บุรีรัมย์ จำนวน 1,448 ราย อุบลราชธานี 1,353 ราย และสุรินทร์ 1,271 ราย สำหรับพ่อแม่ที่คาดว่าจะคลอดบุตรภายในวันที่ 30 ก.ย. 2559 ในขั้นต้น ยังคงไปลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้จนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2559 ในกรุงเทพฯสามารถลงทะเบียนที่สำนักงานเขตทุกเขต ส่วนต่างจังหวัดสามารถลงทะเบียนได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามที่อยู่อาศัยจริง"
พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่าโครงการเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดในครอบครัวยากจนและเสี่ยงที่จะยากจน เดือนละ 400 บาท จนอายุครบ 1 ปี เป็นหนึ่งในนโยบายแผนการพัฒนาประชากรตลอดช่วงอายุ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เด็กแรกเกิดได้รับการดูแลด้านสุขภาพอนามัยอย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น และเป็นการแบ่งเบาภาระครอบครัวยากจนให้สามารถจัดหาข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็กแรกเกิดอย่างพอเพียง โดยคาดว่าตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการ 1 ปี จะมีเด็กแรกเกิดได้รับเงินอุดหนุน จำนวน 135,768 ราย ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งงบประมาณสำหรับดำเนินโครงการในปีแรกไว้จำนวน 600 ล้านบาท
"รัฐบาลเชื่อมั่นว่าการวางรากฐานคุณภาพชีวิตที่เหมาะสมแก่เด็กตั้งแต่เล็กจะช่วยให้เขาเติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพของประเทศในอนาคต ทั้งนี้ท่านนายกรัฐมนตรียังได้ฝากชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ทั้งท้องถิ่น ท้องที่ และทุกหน่วย ทั้งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ที่ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพ ทำให้โครงการเดินหน้าได้ตามเป้าหมายที่วางไว้"
ที่มา: http://www.thaigov.go.th