วันนี้ (ศ 27 พฤศจิกายน 2558 ) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อนุญาตให้นายคิงส์ลี มามาโบโล เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และประธานกลุ่ม77 วาระปี 2558 และนายมูราด อาห์เมีย เลขาธิการบริหารกลุ่ม 77 เข้าเยี่ยมคารวะ ในโอกาสเดินทางมาร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นประธานกลุ่ม 77 ของไทย วาระปี 2559 (Workshop on Thailand’s Chairmanship of the Group of 77 in 2016) ระหว่าง 25-26 พฤศจิกายน 2558 ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลตรีวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมแอฟริกาใต้ ในฐานะประธานกลุ่ม 77 วาระปีนี้ (2558) ที่มีบทบาทอย่างแข็งขัน นำไปสู่การบรรลุข้อสรุปของการจัดทำวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน (2030 Agenda for Sustainable Development) ในการกำหนดเป้าหมาย มาตรการ และการระดมทุน เพื่อการบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลกในอีก 15 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อทีมเจ้าหน้าที่ของไทยจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์การทำหน้าที่อย่างแข็งขันของทีมงานของแอฟริกาใต้
นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงแนวทางในฐานะประธานกลุ่ม G77 ของไทยในปีหน้าว่า ได้เน้นการกำหนดวิสัยทัศน์เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ (Vision to Action) เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth) บนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วน (Partnership) เป็นสำคัญ ให้ความสำคัญในการดำเนินงาน (Implement) ติดตาม (Follow up) และการทบทวน (Review) เพื่อให้การขับเคลื่อนความร่วมมือของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงความสำคัญของกลุ่ม G 77 ว่า เป็นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาประกอบ ด้วยสมาชิกที่มีความแตกต่างและหลากหลาย ความมุ่งมั่นของไทย คือ การแสวงหาความร่วมมือในสาขาที่ต่างมีศักยภาพร่วมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือด้านการเกษตร เป็นเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองให้กับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเช่น G 77 ในเวทีโลกได้ เป็นการแสวงหาจุดร่วมและสงวนจุดต่างระหว่างกัน ทั้งนี้ ไทยมีเป้าหมาย คือการสร้างความเป็นเอกภาพ (unity) โดยจะไม่ทึ้งใครไว้เบื้องหลัง และด้วยความร่วมมือร่วมใจกัน (Stronger Together) ขับเคลื่อนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและสังคมของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ล้วนแต่จะเป็นประโยชน์ต่อ G 77 ประชากรโลกร่วมกัน
โอกาสนี้ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และประธานกลุ่ม77 วาระปี 2558 ได้กล่าวแสดงความยินดีแก่ไทยในการรับฉันทามติให้ดำรงตำแหน่งประธาน G 77 วาระปี 2559 ซึ่งเชื่อมั่นในศักยภาพไทย ภายใต้การนำและวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีจะมีส่วนอย่างสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือ กลุ่ม G 77 อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความชื่นชมหลักปรัญชาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า จะเป็นแนวทางหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่สำคัญอีกด้วย
เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ยังกล่าวสนับสนุนแนวทางการทำงานของนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญในการกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) และลำดับความสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือ (priority) ว่า เนื่องจากกลุ่ม 77 ซึ่งมีสมาชิกมากถึง 134 ประเทศ ที่มีความแตกต่างในการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม จำเป็นต้องมุ่งเป้าความร่วมมือไปในสาขาที่สมาชิกมีศักยภาพและความต้องการร่วมกัน อาทิ การส่งเสริมการลงทุน ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งนี้ มั่นใจในภาวะผู้นำของไทยในฐานะประธาน G77 จะสามารถขับเคลื่อนความร่วมมือของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนานี้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมได้
ทั้งนี้ นายมูราด อาห์เมีย เลขาธิการบริหารกลุ่ม 77 กล่าวชื่นชมวิสัยทัศน์สำหรับการเป็นประธานกลุ่ม 77 ของไทย คือ การส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนที่ครอบคลุมทุกฝ่าย เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งการส่งเสริมความร่วมมือแบบใต้-ใต้ (South-South Cooperation) กับประเทศต่าง ๆ เพื่อเกิดประโยชน์ (Impact) ในความร่วมมือของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาโดยรวมด้วย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th