รมว.พาณิชย์ เป็นประธานงานสัมมนา “นโยบายเร่งด่วนกระทรวงพาณิชย์กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ”

ข่าวทั่วไป Tuesday November 3, 2015 14:43 —สำนักโฆษก

“นโยบายเร่งด่วนกระทรวงพาณิชย์กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ”

ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2558

ณ โรงแรมเดอะรีเจ้นท์ ชะอำ บีช รีสอร์ท จ.เพชรบุรี

-------------------------------

กระทรวงพาณิชย์มีบทบาทเร่งด่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยดำเนินการตามภารกิจทั้งด้านการค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนี้

1) ภารกิจด้านต่างประเทศ

1.1) การประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2558 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีประเด็นสำคัญในการหารือเพื่อการประกาศการจัดตั้งประชาคมอาเซียนในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 พร้อมทั้งประกาศวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนสำหรับ 10 ปีข้างหน้า (2559 - 2568) ในการนี้ผู้นำอาเซียนจะมีกำหนดพบปะหารือกับประเทศคู่เจรจา ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ อินเดีย รัสเซีย ออสเตรเลีย และสหรัฐฯ รวมทั้งภาคธุรกิจ ได้แก่ สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน และสภาธุรกิจเอเชียตะวันออก และองค์การสหประชาชาติ ด้วย

1.2) การประชุม APEC ฟิลิปปินส์จะเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 27 และการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 23 ซึ่งจะมีนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางอภิรดี ตันตราภรณ์) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายดอน ปรมัตถ์วินัย) เข้าร่วมประชุมระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2558 ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยประเด็นหลักที่เอเปคให้ความสำคัญในการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมทั้งความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership: TPP) และการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในเศรษฐกิจภูมิภาคและเศรษฐกิจโลก

1.3) ความตกลงการค้าเสรีไทย-ชิลี ขณะนี้ได้มีการลงนามความตกลงแล้ว เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2556 ซึ่งจะทำให้สินค้านำเข้าจากชิลีและไทย จำนวนอย่างน้อยร้อยละ 90 มีภาษีลดลงเหลือเพียงร้อยละ 0 ทันทีในวันที่ความตกลงมีผลบังคับใช้ (5 พฤศจิกายน 2558) รวมทั้งเกิดความร่วมมือด้านต่างๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการค้าสินค้า บริการ และการลงทุน ระหว่างสองประเทศ ได้อย่างมาก

2) ภารกิจในประเทศ

กระทรวงพาณิชย์มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้ท้องถิ่นให้เศรษฐกิจ หรือ Local Economy โดยเชื่อมโยงกิจกรรมการตลาดกับภาคการผลิตให้มากขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศมีความเข้มแข็งจากภายใน โดยได้ดำเนินการไปแล้ว ดังนี้

2.1) การจัดตั้งตลาดกลางและตลาดชุมชน ในปีงบประมาณ 2559 กระทรวงฯ กำหนดตลาดเป้าหมาย 88 แห่ง ประกอบด้วยตลาดกลาง 11 แห่ง และตลาดชุมชน 77 แห่ง โดยมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้

(1) ตลาดกลาง: ยกระดับตลาดกลางโดยพัฒนาจากตลาดที่มีอยู่เดิม เพื่อจำหน่ายสินค้าเกษตรแบบค้าส่ง (Wholesales) เช่น ให้เกษตรกรมาออกร้านค้าเพื่อจำหน่ายให้กับผู้ซื้อที่เป็น Supplier โดยตรง เป็นช่องทางการจำหน่ายผลผลิตที่เป็นธรรมต่อเกษตร ซึ่งแต่ละตลาดจะเปิดตามช่วงฤดูกาลผลิตสินค้าแต่ละชนิด โดยการยกระดับตลาดจะพัฒนาประสิทธิภาพ เชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์และข้อมูลระหว่างตลาด รวมถึงสร้างกิจกรรมที่ดึงดูดกำลังซื้อ

(2) ตลาดชุมชน/Farm Outlet: พัฒนาตลาดชุมชนให้มีมาตรฐาน แสดงให้เห็นถึง “เอกลักษณ์พาณิชย์อัตลักษณ์ชุมชน” มีการซื้อขายสินค้าของชุมชน เช่น สินค้าเกษตร หัตถกรรม วิสาหกิจชุมชน ซึ่งอาจจำหน่ายโดยเกษตรกร หรือผู้ประกอบวิสาหกิจโดยตรง มีการสร้างมาตรฐานตลาดที่ดี เช่น การติดป้ายราคา ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย การจัดพื้นที่กลุ่มสินค้า อาทิ สินค้าเกษตร สินค้าออร์แกนิค สินค้า

โอท็อป และสินค้าจาก SMEs ต่างๆ รวมทั้งจัดกิจกรรมเสริม เช่น Art Street เป็นต้น โดยระยะแรกจะคัดเลือกตลาดนำร่องเพื่อดำเนินการเป็นต้นแบบ 5 แห่งที่จะพัฒนาให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้

2.2) การส่งเสริมค้าส่งค้าปลีก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการท้องถิ่น และสร้างความมั่นคงให้ชุมชน โดยการพัฒนาธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและสนับสนุนการกระจายสินค้า ซึ่งในเบื้องต้นกระทรวงฯ ได้พัฒนาร้านค้าส่งค้าปลีกให้เป็นร้านค้าต้นแบบแล้วจำนวน 88 ร้านค้า (371 สาขา) ใน 55 จังหวัด และในปี 2559 จะขยายเพิ่มเป็น 100 ร้านค้า พร้อมทั้งได้ใช้เครือข่ายของกระทรวงพาณิชย์ที่มีอยู่กว่าหมื่นรายช่วยกระจายสินค้าไปถึงมือผู้บริโภคอย่างทั่วถึง รวมทั้งสนับสนุนการขยายช่องการจัดจำหน่ายไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาด CLMV อีกด้วย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ