พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กรณีชาวสังคมออนไลน์แชร์ภาพชื่นชม ๒ นายตำรวจ สภ.นาดินดำ จังหวัดเลย ที่ช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่ชายพิการที่พิการขาลีบทั้งสองข้าง เดินทางมาแจ้งความกรณีบัตรทองหาย ด้าน ผกก. เปิดเผยว่าเน้นบริการประชาชนเปรียบเสมือนคนในครอบครัวโดยเฉพาะคนพิการ ซึ่งต่อไปจะมีการจัดหารถวีลแชร์และอุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกต่อผู้พิการมาไว้บริการด้วย ตนขอชื่นชมในการมีจิตอาสาและเอื้อเฟื้อต่อผู้พิการ ทั้งนี้ อยากฝากให้สังคมตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของผู้พิการ สนับสนุนและให้โอกาสคนพิการได้ใช้ชีวิตปกติในสังคมร่วมกัน เพื่อเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และกรณีชาวประมงในจังหวัดตราด พบศพเด็กทารกเพศหญิง อายุครรถ์ประมาณ ๒๘ สัปดาห์ ลอยมาติดบริเวณป่าชายเลน ยังมีสายสะดือติดอยู่กับลำตัว แต่ข้อมือทั้ง ๒ ข้างหายไป ตนมีความห่วงใยปัญหาเด็กถูกทิ้งรายวัน เนื่องจากมียอดเพิ่มขึ้นเกือบทุกวัน เป็นปัญหาสังคมที่ต้องช่วยกันแก้ไข จึงฝากรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดจากการตั้งครรภ์ไม่พร้อม และกระทรวงฯ ได้มีช่องทางการเข้าถึงข้อมูล เพื่อขอความช่วยเหลือหรือขอคำปรึกษาแก้ไขปัญหาเมื่อตั้งครรภ์ไม่พร้อม ผ่านสายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร. ๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีเด็กชายหัวใจแกร่ง อายุ ๑๑ ปี นักเรียนชั้น ป.๕ โรงเรียน แห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก พิการแขนด้วนตั้งแต่กำเนิด แต่มีพรสวรรค์สามารถปั่นจักรยานได้อย่างคล่องแคล่ว เดินทาง มาลงทะเบียนพร้อมครอบครัว เพื่อร่วมกิจกรรม Bike for Dad ในวันแรก พร้อมด้วย ๒ ชายพิการ ฮีโร่ของชาวสองแคว จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมเชิญชวนคนไทยทั่วประเทศร่วมกิจกรรม ‘ปั่นเพื่อพ่อ’ ในวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ตนขอชื่นชม ในความมีมานะพยายามที่คิดทำความดี เพื่อตอบแทนคุณพ่อของแผ่นดิน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคทางร่างกาย นับเป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชนและคนพิการ และกรณีชายชรา อายุ ๖๘ ปี พิการตาบอด มีอาชีพเป็นมือคีย์บอร์ดให้วงดนตรี รับจ้างเล่น ตามงานต่างๆ แต่ระยะหลังเริ่มมีงานน้อย ทำให้ขาดรายได้ จึงมีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก อาศัยอยู่เพียงลำพัง ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งล่าสุดพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (พมจ.ประจวบคีรีขันธ์) ได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้วตามภารกิจของกระทรวงฯ ตนขอขื่นชมในความมีมานะพยายามในการประกอบอาชีพที่สุจริต สามารถหาเลี้ยงตนเองได้ ไม่เป็นภาระของสังคม และไม่นำความพิการมาเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนพิการในการสู้ชีวิต
ที่มา: http://www.thaigov.go.th