วันนี้ (๕ พ.ย. ๕๘) เวลา ๑๑.๓๐ น. ที่
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว
รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือแนวทางการจัดทำที่อยู่อาศัย สำหรับ
ข้าราชการ พนัก
งานราชการและลูกจ้างหน่วยงานของรัฐ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ ว่า การประชุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากนโยบายของนายก
รัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา) ที่มุ่งเน้นยกระดับคุณภาพชีวิต ด้านความมั่นคงที่อยู่อาศัย ให้แก่
ข้าราชการ พนัก
งานราชการ และลูกจ้างหน่วยงานของรัฐ โดยสร้างโอกาส ในการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัย ๑๐ ปี (๒๕๕๙-๒๕๖๘) มีกลุ่มเป้าหมาย คือ
ข้าราชการชั้นผู้น้อย พนัก
งานราชการ และลูกจ้างหน่วยงานของรัฐ ทั้งที่ประจำการและเกษียณอายุราชการ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และในส่วนภูมิภาค ทั้งนี้
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ในฐานะหน่วยงานหลักที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบด้านที่อยู่อาศัย จึงได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กระทรวงศึกษาธิการ การเคหะแห่งชาติ เป็นต้น เข้าร่วมหารือในครั้งนี้
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับผลการประชุมในครั้งนี้ ได้มีการกำหนดรูปแบบของโครงการแบ่งเป็น ๒ รูปแบบ ได้แก่ ๑)โครงการบ้านพักข้าราชการ (บ้านพักสวัสดิการ) พนักงานราชการและลูกจ้างหน่วยงานของรัฐ โดยพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เป็นสวัสดิการที่มีอยู่แล้วของแต่ละหน่วยงาน ๒) โครงการที่อยู่อาศัยประเภทเช่าซื้อ สำหรับตอบสนองความต้องการของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างหน่วยงานของรัฐที่ประสงค์จะมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยเป็นการสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อให้ข้าราชการได้เป็นจ้าของ ด้วยการผ่อนชำระระยะยาว ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้การเคหะแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานดังกล่าว โดยรับผิดชอบในด้านต่างๆ อาทิ สำรวจพื้นที่ก่อสร้าง ออกแบบวางผัง จัดทำรายละเอียดโครงการ กำหนดงบประมาณแผนการดำเนินงาน รวมทั้งควบคุมและบริหารงานก่อสร้าง จนถึงส่งมอบอาคาร ขณะที่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการในด้านต่างๆ อาทิ รวบรวมวิเคราะห์สรุปปริมาณความต้องการที่อาศัย จัดหาสถานที่ก่อสร้าง กำหนดรูปแบบและมาตรฐานอาคาร ขออนุมัติโครงการ งบประมาณ ทั้งนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องจัดทำแผนข้อมูลภายใน ๑ เดือน เพื่อเสนอต่อที่ประชุมต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th