ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า การพบปะกับคณะนักธุรกิจไทยวันนี้ได้มีการหารือร่วมกันในหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการปฏิรูปเศรษฐกิจและการดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย เพราะถือว่าภาคธุรกิจเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรัฐบาลก็ได้มีการสั่งการเรื่องนี้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว อย่างไรก็ตามการจะดำเนินการดังกล่าวให้สำเร็จนั้น รัฐจะดำเนินการฝ่ายเดียวไม่ได้ ทุกคนต้องร่วมมือกันทั้งภาครัฐ ประชาชน และภาคธุรกิจเอกชน ทั้งนี้ ในส่วนของภาคธุรกิจและเอกชนจะเข้ามาร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลในการที่จะดูแลช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยโดยสร้างการเชื่อมโยงธุรกิจต่าง ๆ ทั้งระบบตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก และSMEs ให้ถึงกัน รวมถึงการให้ความรู้ การพัฒนา การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่าสนใจเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าและสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ การสร้าง Social Enterprise การสร้างนักธุรกิจใหม่ การปฏิรูประบบการศึกษาในเรื่องของการดูแลและพัฒนาครู โรงเรียนและสถานศึกษา โดยใช้กิจกรรม CSR ของภาคธุรกิจร่วมกับกิจกรรมลดเวลาเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ การจัดการศึกษาวิชาชีพที่เกิดจากข้อตกลงระหว่างสถานศึกษา หรือสถานบันกับสถานประกอบการ โดยให้ผู้เรียนใช้เวลาส่วนหนึ่งในสถานศึกษาหรือสถานบัน และเรียนภาคปฏิบัติในสถานประกอบการของภาคธุรกิจเอกชน เพื่อประโยชน์ในการผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดอย่างแท้จริง และแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีคุณภาพด้วย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวจะดำเนินการทุกพื้นที่ทั่วภูมิภาคโดยคำนึงถึงศักยภาพความเหมาะสมและความเป็นไปได้ประกอบการพิจารณาดำเนินการ และให้มีการกำหนดแผนการดำเนินการอย่างชัดเจนต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ โดยการดำเนินการทั้งหมดจะอยู่ในแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระยะแรกรัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ ระยะที่สองคือการส่งต่อให้รัฐบาลชุดต่อไปที่จะเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนี้การหารือดังกล่าว ภาคธุรกิจเอกชนก็พร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนโยบายรัฐบาลเป็นอย่างดีตามศักยภาพที่แต่ละบุคคลมีอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องของนโยบายประชารัฐ การพัฒนากำลังคนของประเทศ การวิจัยพัฒนา ตลอดจนเรื่องโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และการร่วมลงทุนในกิจกรรมของรัฐ โดยขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ไขข้อติดขัดต่างๆ เช่น เรื่องภาษีที่ซ้ำซ้อน ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ การสร้างการรับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องระหว่างภาครัฐกับเอกชนให้เป็นไปอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยจากนี้ภาครัฐและภาคธุรกิจเอกชนจะมีการทำงานร่วมกันในเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยจะพิจารณาการดำเนินกิจกรรมที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศ ขณะเดียวกันในเรื่องนโยบายประชารัฐของรัฐบาลนั้น วันนี้ได้มีการหารือกับภาคธุรกิจเอกชนแล้ว โอกาสต่อไปก็จะมีการหารือร่วมกับภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเช่นกัน เพื่อให้การขับเคลื่อนประเทศเดินหน้าต่อไปได้
------------------------
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th