วันนี้ (๖ พ.ย. ๕๘) เวลา ๐๙.๓๐ น. ที่
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว
รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า จากกรณีชุมชนบางปิ้ง ต.
ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ถูกไล่รื้อที่อยู่อาศัยจากภาคเอกชนนั้น ตนได้มอบหมายให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) พอช.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วพบว่า ชุมชนดังกล่าวมีประชาชนอาศัยอยู่จำนวน ๓๕๐ หลังคาเรือน โดยชุมชนเช่าที่ดินเอกชนปลูกสร้างที่อยู่อาศัย มานานกว่า ๘๐-๙๐ ปี และเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ เจ้าของที่ดินต้องการใช้ที่ดิน จึงนำป้ายประกาศให้ย้ายออกจากที่ดินภายใน ๓๐ วัน หากพ้นระยะเวลา วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ จะดำเนินการฟ้องร้องขับไล่ชาวชุมชนต่อไป ทั้งนี้ เจ้าของที่ดินได้มีการจ่ายค่ารื้อถอน ๓,๐๐๐–๓๐,๐๐๐ บาท ต่อราย และได้ดำเนินคดีกับชาวชุมชน จำนวน ๑๕๐ ราย ปัจจุบันมีบ้านที่ยังอยู่อาศัย ๒๖๒ หลังคาเรือน ประชาชนจำนวนประมาณ ๒,๓๐๐ คน โดยชุมชนได้มีการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ มีสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ ๑๙๙ หลังคาเรือน เป็นบ้านผู้ยากไร้ ๑๐ หลังคาเรือน และกลุ่มที่ไม่เข้าร่วมกระบวนการออมทรัพย์ ๖๓ หลังคาเรือน นอกจากนี้ ชุมชนได้เสนอให้เจ้าของที่ดินจ่ายค่ารื้อถอนขนย้ายจำนวน ๑๘ ล้าน ให้กับสมาชิก ๒๐๙ หลังคาเรือน เพื่อชุมชนจะนำเงินค่ารื้อถอนดังกล่าวไปสมทบซื้อที่ดิน จำนวน ๙ ไร่ ราคารวมจำนวนทั้งสิ้น ๒๗ ล้านบาท และจะดำเนินโครงการบ้านมั่นคงต่อไป พร้อมทั้งเสนอให้เจ้าของที่ดินจ่ายค่ารื้อถอน ขนย้าย สำหรับ ๖๓ หลังคาเรือน ที่ไม่ร่วมการออมทรัพย์ หลังละ ๗๐,๐๐๐ บาท
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาชุมชนที่ถูกไล่รื้อที่อยู่อาศัยดังกล่าว กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดย พอช.จะดำเนินการช่วยเหลือด้วยการปล่อยสินเชื่อกู้ยืมเพื่อซื้อที่ดินและปลูกสร้างที่อยู่อาศัยตามแนวทางของโครงการบ้านมั่นคง โดยประชาชนสามารถกู้ยืมเงินจากโครงการได้รายละไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท ในอัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ร้อยละ ๔ ต่อปี และผ่อนชำระในระยะเวลา ๑๕ ปี ทั้งนี้ โครงการบ้านมั่นคงมีการดำเนินงานมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล ซึ่งการสนับสนุนงบประมาณในแต่ละปีจะไม่เท่ากัน และความคืบหน้าการดำเนินโครงการบ้านมั่นคง มีรายละเอียดดังนี้เดือน ตุลาคม ๒๕๕๘ โครงการบ้านมั่นคงได้รับอนุมัติงบประมาณสนับสนุนการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่มีสถานะโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน ๗๖ จังหวัด ๓๒๗ เมือง/เขต ๑,๐๐๙ โครงการ ๒,๕๘๗ ชุมชน ๙๙,๒๓๗ ครัวเรือน
"อย่างไรก็ตาม กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เพื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาสได้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th