โฆษกรัฐบาลแจงขณะนี้อุทยานราชภักดิ์อยู่ในระหว่างการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความชัด

วันนี้ (8 ธ.ค.58) เวลา 14.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมฯ ถึงเรื่องที่นายกรัฐมนตรีปรารภและสั่งการต่อที่ประชุมฯ โดยได้กล่าวชี้แจงถึงสาเหตุที่ฝ่ายความมั่นคงไม่สามารถอนุญาตให้กลุ่มนักศึกษาจำนวนหนึ่งเดินทางไปที่อุทยานราชภักดิ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ว่า ไม่ใช่เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพแต่อย่างใด ทั้งนี้จากสิ่งที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรม หรือการให้ข้อมูลข่าวสารของกลุ่มบุคคลดังกล่าวกับสังคมนั้นเป็นการบอกถึงความสุจริตใจหรือไม่ เพราะการเดินทางลงพื้นที่ไม่สามารถที่จะตรวจสอบอะไรได้ เนื่องจากจะเห็นเพียงแค่สถานที่และองค์พระรูป 7 พระองค์ เท่านั้น ทั้งนี้การตรวจสอบต้องพิจารณาจากเอกสารหลักฐาน เพราะฉะนั้นการที่เดินทางลงไปในพื้นที่อุทยานราชภักดิ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีเจตนาและพฤติกรรมชัดเจนว่าไม่ได้เป็นเรื่องของการตรวจสอบ แต่เป็นกิจกรรมทางการเมืองที่จะทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ดังนั้น ฝ่ายความมั่นคงจึงไม่สามารถปล่อยให้ดำเนินการได้เพราะเป็นอิสระที่เกินขอบเขตและจะสร้างความปั่นป่วน ประกอบกับขณะนี้มีกฎหมายกำหนดในเรื่องนี้ว่าการชุมนุมกันเกินกว่า 5 คน และทำกิจกรรมทางการเมืองเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย แม้นักศึกษากลุ่มนี้อาจจะไม่ได้คิดถึงอนาคตของตนเอง แต่ในฐานะที่รัฐบาลเป็นผู้ใหญ่และดูแลเรื่องราวต่าง ๆ หากปล่อยให้ไปที่อุทยานราชภักดิ์ ก็จะมีการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผิดกฎหมายซึ่งจะทำให้มีคดีความติดตัวและต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะทำให้นักศึกษาเหล่านั้นเสียอนาคตได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ รัฐบาลพยายามอย่างยิ่งที่จะประคับประคองอนาคตของกลุ่มนักศึกษาเหล่านี้ เพราะยังเป็นเยาวชนที่จะต้องเติบโตไปในวันข้างหน้า วันนี้อาจจะยังมีประสบการณ์น้อยอยู่

ขณะนี้อุทยานราชภักดิ์ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบอยู่แล้วของกระทรวงกลาโหม ซึ่งจากที่ได้สอบถามกระทรวงกลาโหมก็ได้รายงานว่ามีความคืบหน้าเป็นลำดับ และจะพยายามดำเนินการให้เป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถดำเนินการได้ โดยไม่เป็นการละเลยในเรื่องความรอบคอบต่อการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานจะได้ผลสรุปที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว

พร้อมกันนี้ ขอให้สังคมพิจารณาว่าผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องและพยายามให้ข้อมูลกับสังคมอยู่ในขณะนี้ เป็นผู้ที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับเรื่องคดีความต่าง ๆ ในอดีตหรือไม่ ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันพยายามที่จะนำคดีความต่าง ๆ เหล่านั้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ หากบุคคลดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคดีความต่าง ๆ หมายความว่าเป็นการพยายามเบี่ยงเบนประเด็นหรือไม่ เพื่อให้สังคมลืมเรื่องคดีความที่ค้างอยู่แล้วหันมาสนใจเรื่องนี้แทน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยเป็นอย่างมากคือเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค ที่มีความพยายามเชื่อมโยงพาดพิงถึงนายกรัฐมนตรี ครอบครัว และบุคคลในรัฐบาลหลายคนว่ามีส่วนเกี่ยวพัน และมีการทุจริตนั้น นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายฝ่ายความมั่นคงไปติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าบุคคลใดที่ปล่อยข่าวข้อมูลเหล่านี้ เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นการสร้างความสับสนให้เกิดขึ้นในสังคม รวมทั้งข้อมูลดังกล่าวเป็นการปล่อยผ่านสื่อโซเซียลมีเดียที่เชื่อถือไม่ได้ เพราะไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่รับผิดชอบได้อย่างชัดเจน พร้อมขอความร่วมมือให้สื่อมวลชนได้มีการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนนำเสนอให้สังคมรับทราบ เพื่อที่จะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพราะขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในระหว่างที่จะสร้างกฎกติกา เพื่อขับเคลื่อนประเทศและนำไปสู่ประชาธิปไตยตาม roadmap ที่กำหนดไว้ แต่การดำเนินการดังกล่าวรัฐบาลจะรับภาระเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ในการที่จะประคับประคองให้ประเทศสงบเรียบร้อย ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งข้าราชการ ประชาชน สื่อมวลชน เป็นต้น

---------------------------

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th