พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรม "ปั่นเพื่อพ่อ Bike for Dad” เฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๘ พรรษา ๕ ธ.ค.๕๘ ซึ่งมีผู้พิการทั่วประเทศมาลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นจำนวนมากนั้น ตนได้เน้นย้ำกำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทุกจังหวัด ดูแลประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการทั่วประเทศที่เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งต้องอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ทั้งในด้านความปลอดภัยและเส้นทางที่เหมาะสมกับผู้พิการมากที่สุด และได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) เตรียมความพร้อมอบรมเรื่องความปลอดภัยในการปั่นจักรยานให้แก่ผู้พิการ จำนวน ๔๐๐ คน ในกรุงเทพฯ ซึ่งกำหนดซ้อมปั่นขบวนจักรยานผู้พิการดังกล่าวที่สวนลุมพินี ในวันที่ ๑๕ พ.ย. ๕๘ นี้ ก่อนร่วมกิจกรรม "ปั่นเพื่อพ่อ Bike for Dad” ในวันที่ ๑๑ ธ.ค. ๕๘ นี้
"จากกรณีหญิงชราวัย ๗๒ ปี ต้องออกไปเก็บของเก่าขายในเวลากลางคืนจนถึงช่วงเช้ามืด เพราะในช่วงตอนกลางวันต้องรับภาระดูแลคนในครอบครัว ๖ คน ประกอบด้วย สามี อายุ ๘๓ ปี ที่มีอาการหลงๆลืมๆ ลูกชาย อายุ ๔๖ ปี พิการหูหนวกและป่วยเป็นโรคไต และหลานอีก ๓ คน อายุ ๔-๖ ขวบ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดสมุทรสาคร และกรณีหญิงสาวอายุ ๑๕ ปี กำพร้าพ่อ-แม่ ต้องรับจ้างทั่วไป ได้เงินครั้งละ ๑๐๐-๒๐๐ บาท เพื่อนำเงินมาหาเลี้ยงพี่ชาย อายุ ๒๔ ปี ที่พิการขาลีบเดินไม่สะดวก และ น้องชาย อายุ ๘ ปี เรียนอยู่ชั้น ป.๒ ครอบครัวมีฐานะยากจน ต้องใช้ชีวิตอย่างแร้นแค้น ที่จังหวัดนครสวรรค์ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร (พมจ.สมุทรสาคร)พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์ (พมจ.นครสวรรค์) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงฯ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือดูแลรักษาผู้ป่วยในครอบครัวและช่วยเหลือด้านการศึกษาของเด็กในระยะยาวต่อไป”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th