นายกรัฐมนตรีประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต ยึดหลักความซื่อสัตย์ อย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี รวมถึงยึดความยุติธรรม ยับยั้งชั่งใจ ไม่กระทำการโกงกินแผ่นดิน

ข่าวทั่วไป Wednesday December 9, 2015 10:52 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต ยึดหลักความซื่อสัตย์ อย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี รวมถึงยึดความยุติธรรม ยับยั้งชั่งใจ ไม่กระทำการโกงกินแผ่นดิน

วันนี้ (9 ธันวาคม 2558) เวลา 09.00 น. ณ เวทีกลาง ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต ในงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) โดยมี คณะรัฐมนตรี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เอกอัครราชทูต ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ นักเรียน นักศึกษาและประชาชนเข้าร่วม

สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ภายใต้แนวคิด “Transparent THAILAND ประเทศไทยโปร่งใส” คือ 1. เพื่อแสดงให้เห็นเจตจำนงของฝ่ายบริหารและหน่วยงานตรวจสอบว่ามีความมุ่นมั่นในการแก้ไขปัญหานี้อย่างไร 2. เพื่อต้องการสร้างความตระหนักรู้ ค่านิยมในการต่อต้านการทุจริตและปลูกจิตสำนึกในด้านคุณธรรมจริยธรรม ไม่ยอมให้มีการทุจริตเกิดขึ้น 3. ภารกิจหลักของ ป.ป.ช.คือการปราบปรามการทุจริตแต่จะสำเร็จไม่ได้หากไม่มีเครือข่าย จึงจัดงานนี้เพื่อสร้างเครือข่ายทุกภาคส่วน โดยกิจกรรมภายในงานจะน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมานำเสนอด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตตอนหนึ่งความว่า ปัญหาการทุจริตเป็นปัญหาที่เรื้อรังของทุกประเทศ ยกเว้นประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนาและที่ผ่านมายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันได้ เพราะฉะนั้นทุกภาคส่วนต้องสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อช่วยแก้ไขปัญหา ร่วมกันเฝ้าระวัง ป้องกัน ปราบปราม และตรวจสอบ รวมถึงต่อต้านการทุจริตเพื่อให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์โดยตรง และที่สำคัญต้องช่วยกันสร้างการรับรู้ให้ทุกคนตระหนักถึงภัยความเสียหายของการทุจริตคอร์รัปชัน พร้อมกับช่วยกันปลูกฝั่งจิตสำนึกให้กับเด็กและเยาวชนโตไปต้องไม่โกง

สำหรับการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการทุจริตต้องจริงจัง และเคร่งครัดอย่างต่อเนื่อง การบังคับใช้ต้องเป็นธรรม ถูกต้อง มีความโปร่งใส และที่สำคัญอำนาจของรัฐจะต้องไม่ทับซ้อนการทำงานขององค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทุจริต ทั้งนี้ องค์กรดังกล่าวจะต้องวางแผนการทำงานร่วมกันเพื่อไม่ให้กระบวนการทำงานล่าช้า และรวดเร็วจนเกินไป และต้องสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้ได้

ทั้งนี้ ส่วนราชการต้องลดการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยพัฒนาระบบราชการโดยลดช่องทาง ลดโอกาสในการทำทุจริตหน่วยงานภาครัฐ มีการกำหนดแนวทางห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินกิจการที่เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตตามมาตรา 100 การกำหนดหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา 103 และภาคเอกชนต้องลดการกระทำผิดของภาคธุรกิจ ผ่านการรวมตัวกันของภาคเอกชนเพื่อรณรงค์ต่อต้านการทุจริต เพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีนโยบายที่ชัดเจนในการต่อต้านพฤติกรรมต่างๆ ที่ส่อว่ามีเจตนาการทุจริต รวมถึงการลงนามบันทึกข้อตกลงมาตรฐานการดำเนินงานธุรกิจที่โปร่งใสตรวจสอบได้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า สิ่งที่สำคัญคือการใช้กลไกทางสังคมมาเป็นหูเป็นตาคอยสอดส่องเฝ้าระวัง ส่งเรื่องร้องเรียนการทุจริตคอร์รัปชันให้ครอบคลุมประชาชนในทุกพื้นที่ ให้ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำกระทรวง และศูนย์ปฏิบัติการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด กรุงเทพมหานคร บูรณาการร่วมกับอำเภอ สำนักงานเขต หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษา องค์กร เครือข่ายในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน หมู่บ้านและอาสาสมัครต่าง ๆ ใช้มาตรการทางสังคมในการป้องปราม ตรวจสอบ และเฝ้าระวัง

การทุจริต โดยเน้นการสร้างการมีส่วนร่วมในการดำเนินการป้องกันการทุจริตของทุกภาคส่วน ร่วมกันรณรงค์สร้างจิตสำนึกด้านส่งเสริมค่านิยม ความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างกลไกการเฝ้าระวังเชิงรุก โดยส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบการดำเนินงานของภาคราชการให้มีความถูกต้องชอบธรรม โปร่งใส และน่าเชื่อถือต่อไปในอนาคต

โดยในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวนำประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตว่า “ข้าพเจ้า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอประกาศเจตนารมณ์ว่า จะประพฤติปฏิบัติตนในสัมมาชีพ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นหลักสำคัญมั่นคง ดำรงตนอยู่ด้วยความมีเกียรติ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ยึดความยุติธรรม ความเป็นธรรมเป็นที่ตั้ง จะยับยั้งชั่งใจ ไม่กระทำการโกงกินแผ่นดิน หรือใช้ตำแหน่งหน้าที่หาประโยชน์ บนความทุกข์ยากของประชาชน จะเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทในปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และยืนเคียงข้างสุจริตชน ร่วมสร้างเยาวชนให้โตไปไม่โกง เพื่อจรรโลงและนำพาประเทศไทยให้รุ่งเรืองสืบไป”

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่จากสถานทูตที่มาเป็นสักขีพยานรับทราบการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจรติในวันนี้ พร้อมกล่าวยืนยันประเทศไทยจะอยู่เคียงคู่เคียงข้างทุกประเทศ ตามพันธสัญญาที่มีอยู่ เพียงแต่ขอเวลาทำให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็งไปด้วย

-----------------------------------------

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

นราวุธ รายงาน

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ