นายกฤษฎา บุญราชปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (ตำบลละ 5 ล้านบาท) เพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชลอตัว และราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ ซึ่งถือเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่รัฐบาลมีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อปัญหาดังกล่าว สำหรับการดำเนินมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (ตำบลละ 5 ล้านบาท) รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 39,742.248 ล้านบาทให้แก่ 7,255 ตำบล ๆ ละ 5 ล้าน รวม 36,275 ล้านบาท และให้นับรวมวงเงินที่ได้รับการจัดสรรตาม "มาตรการสำคัญเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและคนยากจนในการสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนของกระทรวงมหาดไทย" วงเงินงบประมาณ 6,541 ล้านบาท และ"โครงการสนับสนุนการจัดหาเครื่องจักรกลการเกษตรให้แก่กลุ่มสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร" วงเงินงบประมาณ 490 ล้านบาทรวมอยู่ด้วย
วันนี้ (8 พ.ย.57) นายกฤษฎา บุญราชปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (ตำบลละ 5 ล้านบาท) เพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชลอตัว และราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ ซึ่งถือเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่รัฐบาลมีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อปัญหาดังกล่าว
สำหรับการดำเนินมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (ตำบลละ 5 ล้านบาท) รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 39,742.248 ล้านบาทให้แก่ 7,255 ตำบล ๆ ละ 5 ล้าน รวม 36,275 ล้านบาท และให้นับรวมวงเงินที่ได้รับการจัดสรรตาม "มาตรการสำคัญเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและคนยากจนในการสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนของกระทรวงมหาดไทย" วงเงินงบประมาณ 6,541 ล้านบาท และ"โครงการสนับสนุนการจัดหาเครื่องจักรกลการเกษตรให้แก่กลุ่มสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร" วงเงินงบประมาณ 490 ล้านบาทรวมอยู่ด้วย
กระทรวงมหาดไทย จึงขอเรียนให้ทราบถึงสถานะการดำเนินงานตาม โครงการดังกล่าว เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ทราบความคืบหน้าและการดำเนินงานต่างๆ ทุกขั้นตอนรวมทั้งงบประมาณที่กำลังจะลงไปในพื้นที่ ดังนี้
1. มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (ตำบลละ 5 ล้านบาท) ทุกจังหวัดได้เสนอโครงการที่ผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการระดับจังหวัด เพื่อขออนุมัติจากสำนักจัดทำงบประมาณเขตพื้นที่ 1 – 18 แล้ว จำนวน 118,018 โครงการ เป็นเงิน 35,746 ล้านบาท ขณะนี้สำนักงบประมาณได้อนุมัติงบประมาณแล้ว จำนวน 53,608 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 45 เป็นเงินงบประมาณ 16,916 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.63 และอยู่ระหว่างพิจารณา จำนวน 64,410 โครงการ เป็นเงิน 19,108 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 3 พ.ย.58)
2. โครงการมาตรการสำคัญเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและคนยากจนในการสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนของกระทรวงมหาดไทย ได้รับการอนุมัติและจัดสรรงบประมาณแล้ว จำนวน 3,827 โครงการ เป็นเงินงบประมาณ 3,212 ล้านบาท ดำเนินการในพื้นที่ 76 จังหวัด ขณะนี้เริ่มมีการเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้วประมาณ 9 ล้านบาท
3. โครงการสนับสนุนการจัดหาเครื่องจักรกลทางการเกษตรให้แก่กลุ่มสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 421 โครงการ เป็นเงินงบประมาณ 254 ล้านบาท ดำเนินการในพื้นที่ 21 จังหวัด ขณะนี้จังหวัดกำลังเร่งดำเนินการตามโครงการที่ได้รับอนุมัติ และในฐานะที่กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการดำเนินโครงการนี้ ซึ่งจะต้องดูแลให้ทุกโครงการมีความโปร่งใส คุ้มค่า และตรงตามความต้องการของประชาชนป้องกันไม่ให้มีการคอรัปชั่นเกิดขึ้น โดยได้มีการกำหนดมาตรการต่างๆ ออกมาอย่างเข้มข้น เช่น การกำหนดหลักเกณฑ์และคู่มือการเบิกจ่ายงบประมาณตามระเบียบราชการอย่างรัดกุมเพื่อให้ทุกจังหวัดยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจติดตามโครงการระดับกระทรวง โดยมี ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยประจำเขตทั้ง 18 เขต เป็นประธาน และผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน กรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมเป็นกรรมการ การขอความร่วมมือจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ ป.ป.ช.ทุกจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ร่วมติดตามการดำเนินงานตามโครงการในพื้นที่ เพื่อให้ข้อสังเกตและคำแนะนำในการปฏิบัติงานต่างๆให้เป็นไปอย่างโปร่งใส
นอกจากนี้ เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบถึงการดำเนินงานทุกขั้นตอนอย่างเปิดเผย กระทรวงมหาดไทยยังได้เปิด Webpage ประจำตำบล ทั่วประเทศ ให้ตำบลต่างๆได้ Upload โครงการที่ได้อนุมัติให้ดำเนินการ จำนวนงบประมาณ และข้อมูลการดำเนินงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ ประชาชนเข้าดูได้ที่ www.tambon.dopa.go.th
รวมทั้งการประชาสัมพันธ์หรือเปิดเผยข้อมูลโครงการที่ลงไปในพื้นที่ โดยติดป้ายประชาสัมพันธ์ หรือการแจกใบปลิว แผ่นพับในหมู่บ้าน เพื่อให้เข้าถึงประชาชนในพื้นที่อำเภอ ตำบล หมู่บ้านให้มากที่สุด ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะดูแลทุกโครงการให้ถึงมือพี่น้องประชาชน เพื่อให้เม็ดเงินที่จะลงไปช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ทุกโครงการ ทุกงบประมาณจึงต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน.
ที่มา: http://www.thaigov.go.th