นายกฯ จี้คลัง พาณิชย์ เร่ง ปชส. และขับเคลื่อน มาตรการจูงใจด้านภาษี ดึงดูดบริษัทต่างชาติตั้ง สนง.ใหญ่ในไทย หวังยกไทยเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนในภูมิภาค ช่วยรัฐจัดเก็บรายได้เพิ่ม

ข่าวทั่วไป Saturday December 12, 2015 11:05 —สำนักโฆษก

วันนี้ (12ธ.ค.58) พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าของมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้ง สนง.ใหญ่ข้ามประเทศ (IHQ) และมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งบริษัทการค้าระหว่างประเทศ (ITC) ว่า ตามที่ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีดังกล่าว เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.57 และ 10 มี.ค.58 เพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศจัดตั้ง สนง.ใหญ่ข้ามประเทศและบริษัทการค้าระหว่างประเทศในประเทศไทย ส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้า การเงิน และการลงทุนของภูมิภาคนั้น

ขณะนี้มีบริษัทที่ได้รับอนุมัติให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีของ IHQ แล้ว จำนวน 17 ราย และบริษัทที่ได้รับอนุมัติให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีของ ITC จำนวน 2 ราย นอกจากนี้ ยังมีบริษัทที่อยู่ระหว่างการพิจารณาให้สิทธิประโยชน์อีก 12 ราย ส่วนคนต่างด้าวที่ได้รับอนุมัติสิทธิประโยชน์ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายใต้ 2 มาตรการดังกล่าวมีทั้งหมด 191 ราย

“นายกฯ ได้ติดตามความคืบหน้าของมาตรการนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลต้องการสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนด้วยการสร้างแรงจูงใจให้บริษัทต่างชาติมาตั้ง IHQ และ ITC ในบ้านเรา แทนที่จะไปตั้งในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ที่ผ่านมาไทยมีข้อจำกัดด้านภาษีที่ไม่เอื้อต่อบริษัทต่างชาติ วันนี้รัฐบาลปรับหลักเกณฑ์ใหม่ ซึ่งต้องให้เวลาคนทำงานไปอธิบายกับต่างชาติว่า เรามีมาตรการภาษีที่สนับสนุนการลงทุนแก่เขา โดยต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี นับตั้งแต่ที่ได้มีการปรับแก้กฎหมายเมื่อเดือน พ.ค.58 จึงจะเริ่มเห็นผล”

พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์และ อำนวยความสะดวก ในการติดต่อประสานงานเพื่อให้บริษัทต่างชาติเข้าใจถึงมาตรการภาษีที่รัฐบาลกำหนด เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้มาตั้ง สนง.ใหญ่ในไทย ซึ่งถ้าเปรียบเทียบสิ่งที่จะได้รับกับการยกเว้นภาษีจำนวนหนึ่งให้แก่บริษัทต่างชาติจะพบว่ามีข้อดีหลายประการ โดยเฉพาะจะทำให้ประเทศมีตลาดที่กว้างขึ้นและคาดว่าจะจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 15,000 ล้านบาทต่อปี

สำหรับมาตรการภาษีเพื่อ IHQ คือ 1.ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 15 ปี สำหรับรายได้จากการให้บริการเงินปันผล ค่าสิทธิ รายได้จากการโอนหุ้นที่ได้รับจากวิสาหกิจในเครือที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ และรายได้จากการซื้อและขายสินค้าในต่างประเทศ รวมถึงเงินปันผลและดอกเบี้ยที่นิติบุคคลที่อยู่ในต่างประเทศและไม่ได้ประกอบกิจการในไทยได้รับจาก IHQ 2.ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรายได้จากการให้บริการวิสาหกิจในเครือในประเทศเหลือ 10% เป็นระยะเวลา 15 ปี 3.ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับคนต่างด้าวที่ทำงานใน IHQ เหลือ 15% เป็นระยะเวลา 15 ปี4.ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับดอกเบี้ยที่ IHQ ได้รับจากธุรกรรมการกู้ยืมในเครือ

ส่วนมาตรการภาษีเพื่อ ITC คือ 1.ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 15 ปี จากรายได้การซื้อและขายสินค้าในต่างประเทศ รวมถึงเงินปันผลและดอกเบี้ยที่นิติบุคคลที่อยู่ในต่างประเทศและไม่ได้ประกอบกิจการในไทยได้รับจาก ITC 2.ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับคนต่างด้าวที่ทำงานใน ITC เหลือ 15%

เป็นระยะเวลา 15 ปี

--------------

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ