ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กล่าวรายงานว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ นับเป็นรถไฟฟ้าสายแรกที่เปิดประตูจากกรุงเทพฯ ไปสู่เขตปริมณฑล โดยการเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสารระหว่างกรุงเทพฯ และนนทบุรี ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรที่ติดขัดลงได้ โดยระยะทางประมาณ 23 กม. มีสถานียกระดับ 16 สถานี อาคารจอดจำนวน 4 แห่ง และศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า 1 แห่ง โดย รฟม. ได้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จสมบูรณ์
สำหรับการดำเนินงานระยะที่ 1 การจัดหาระบบรถไฟฟ้าที่จะนำมาให้บริการในระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ นั้น BMCL ได้ดำเนินการสั่งผลิตขบวนรถไฟฟ้าทั้งหมดจากประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัท Japan Transport Engineering Company ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าความเร็วสูงอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น จำนวน 21 ขบวน รวม 63 ตู้ โดย 3 ขบวนแรก (จำนวน 9 ตู้) มาถึงประเทศไทยตั้งแต่เดือนกันยายน 2558 และ 3 ขบวนถัดมา (จำนวน 9 ตู้) มาถึงประเทศไทยแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งขบวนรถไฟฟ้าจะทยอยส่งมอบจนครบทั้งหมดตามจำนวนประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2559 โดยทาง บริษัท BMCL จะเริ่มทดสอบระบบย่อยต่าง ๆ ในแต่ละส่วนของระบบรถไฟฟ้าอันเป็นส่วนต่อเนื่องมาจากโรงงานในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งให้มีการทดสอบในรางวิ่งทดสอบภายในศูนย์ซ่อมบำรุงอีกด้วย
นอกจากนี้ รฟม. และ BMCL จะร่วมดำเนินงานในการทดลองเดินรถ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – เตาปูน เพื่อให้เกิดความพร้อมที่จะเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการ โดยกำหนดเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการเสมือนจริงประมาณเดือนพฤษภาคม 2559 และเปิดเดินรถอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2559
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวมอบนโยบายว่า วันนี้ปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งของประเทศไทยคือ ปัญหาการจราจรที่ติดขัด จะทำอย่างไรให้การจราจรมีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และไม่มีอุบัติเหตุ ซึ่งรัฐบาลต้องการที่จะพัฒนาประเทศในการขยายโครงข่ายการคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐบาลที่กำหนดให้เป็นหน้าที่ที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน อำนวยความสะดวกในการเดินทาง และเพิ่มประสิทธิภาพในการคมนาคมขนส่ง ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตลอดจนเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนของประเทศ และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเปิดบริการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงเร็วกว่ากำหนดเดิมที่จะเปิดให้บริการเป็นทางการในเดือนสิงหาคมปีหน้า
พร้อมกล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในประเทศ อาทิ การทำที่จอดรถให้แก่ผู้ที่เข้ามาใช้บริการรถไฟฟ้า และให้มีการเชื่อมต่อกับโรงงานอุตสาหกรรมที่เน้นใช้วัสดุภายในประเทศ โดยขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการเพื่อทำให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็ง และทำให้ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มีการตรวจสอบที่โปร่งใส
สำหรับในส่วนของรถไฟฟ้านั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งของการขนส่งทั้งภายในและภายนอกตัวเมืองหลักที่ไปสู่ปริมณฑล ซึ่งมีความสำคัญเช่นเดียวกันและจะทำอย่างไรให้เกิดลักษณะของวงแหวนรอบนอกและรอบใน จึงขอให้กระทรวงคมนาคมร่วมกันหารือว่าจะทำอย่างไรให้การขนส่งของไทยมีการกระจายตัวอย่างทั่วถึงและหาแนวทางในการคิดค่าบริการที่ไม่สูงเกินไป เพราะต้องคำนึงถึงประชาชนผู้มีรายได้น้อยอีกด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีปล่อยขบวนรถไฟฟ้า บริเวณชั้น 3 เพื่อทดสอบการเดินรถไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ เมื่อขบวนรถไฟฟ้าเดินทางถึงสถานีตลาดบางใหญ่ นายกรัฐมนตรีลงจากขบวนรถไฟฟ้าเพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการ บริเวณชานชาลาสถานี แล้วกลับขึ้นไปยังรถไฟฟ้า โบกี้ที่ 1 เพื่อเดินทางกลับไปยังสถานีศูนย์ซ่อมบำรุงคลองบางไผ่ ก่อนเดินทางโดยรถยนต์ไปยังสถานีสนามไชย เพื่อเป็นประธานในพิธีฉลองความสำเร็จการเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าลอดแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ณ สถานีสนามไชย
..................................................................
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ชมพูนุท / รายงาน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th