พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยหลังเป็นประธานมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่คณะกรรมการประกันสังคม และที่ปรึกษาคณะกรรมการประกันสังคม คณะกรรมการการแพทย์ และคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 40/2558 ว่าการประกันสังคมเป็นหลักประกันชีวิตที่สำคัญสำหรับนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ประกันตนทั้งงานด้านบริการและสิทธิประโยชน์ของนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ประกันตน จำเป็นต้องปรับปรุงและแก้ไขอย่างเร่งด่วน ดังนั้น การปฏิรูประบบงานประกันสังคม งานกองทุนเงินทดแทน และสำนักงานประกันสังคม จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งจัดระบบ และจัดการบริหารงานให้เกิดความโปร่งใส พร้อมวางรากฐานการดำเนินงานในอนาคตให้สามารถตรวจสอบได้และเกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับแนวทางในการปฏิบัติงานของสำนักงานประกันสังคมเพิ่มเติมในส่วนของภารกิจเห็นควรเร่งดำเนินการ ได้แก่ 1) เร่งรัดการปฏิรูประบบประกันสังคม ปฏิรูปการบริหารองค์การให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีธรรมาภิบาล เป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจ ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ประกันตน ๒) เร่งรัดการปฏิรูปกองทุนเงินทดแทน ให้มีสถานะเป็นกองตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการฯ แปลงจากหน่วยปฏิบัติ (Operator) ไปสู่หน่วยกำกับดูแล (Regulator) ในกระบวนงานต่างๆ ปรับเปลี่ยนวิธีคิดและแนวทางระบบการบริหารจัดการกองทุนเงินทดแทนใหม่ให้ทันสมัย คล่องตัวด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ 3) ปฏิรูประบบการให้บริการทางการแพทย์ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการให้บริการ โดยการบูรณาการด้านบริการทางการแพทย์ เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่พึ่งพาการบริการทางการแพทย์ภาครัฐ ออกแบบแนวทางในการให้บริการประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึง ให้ทุกคนได้มีสิทธิเข้าถึงบริการสาธารณสุขอย่างเท่าเทียม มีคุณภาพ ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน 4) ปฏิรูปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการการลงทุน ให้มีสถานะเป็นกองตามกฎหมายแบ่งส่วนราชการฯและในระยะต่อไป ผลักดันจัดทำรูปแบบการบริหารงานภายในกอง บริหารการลงทุนเป็น 2 ส่วนงาน คือ ส่วนงานกำกับดูแล (Regulator) และส่วนงานปฏิบัติการ (Operator) เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการฯ และนำเสนอต่อคณะทำงานศึกษารูปแบบโครงสร้างของสำนักงานประกันสังคม 5) ให้คณะกรรมการทั้ง 3 ชุด ทำงานโดยสุจริต เที่ยงธรรม ไม่แสวงหาผลประโยชน์อื่นใดจากสำนักงานประกันสังคม ให้สมกับที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ความไว้วางใจ
รมว.แรงงาน กล่าวต่อว่า สำหรับกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้มีความสามารถเนื่องจากรู้ปัญหาต่างๆที่ผ่านมา โดยได้เน้นย้ำเรื่องการดำเนินงานทั้งในส่วนของกรรมการ และในส่วนของสำนักงานประกันสังคม มีเรื่องที่จะต้องเร่งรัด โดยกำหนดกรอบระยะเวลาไว้ 2 ปี โดยรัฐบาลให้ความสนใจ เร่งรัดเรื่องการปฏิรูปสำนักงานประกันสังคม เร่งรัดในการปฏิรูประบบของประกันสังคมให้มีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพมากขึ้น เร่งรัดในเรื่องการปฏิรูปในเรื่องของการบริหารการลงทุน ให้นโยบายไปกว้างๆในส่วนของผู้ที่จะมีอำนาจตัดสินใจในการลงทุนก็จะเป็นส่วนของ Operator ซึ่งต้องแยกกันให้ชัดเจน หรืออาจหามืออาชีพเข้ามาเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมุ่งเน้นไปเพื่อผู้ที่รับประโยชน์สูงสุดได้แก่ผู้ประกันตน และที่เน้นย้ำความสำคัญคือการทำงานต้องโปร่งใส สามารถที่จะตรวจสอบได้ไนทุกขั้นตอน
หม่อมหลวง ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ให้นโยบายเร่งรัดในการปฏิรูปการทำงานให้มีความโปร่งใส มีแผนที่ชัดเจน มีการรายงานเป็นระยะ ทั้งเรื่องการปรับปรุงการทำงาน การลงทุนให้มีประสิทธิภาพ ซึ่ง คสช.มองว่าขณะนี้มาถึงจุดที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันแก้ปัญหา คิดว่ามาทำให้กองทุนประกันสังคมเกิดประโยชน์กับผู้ประกันตน ผู้ใช้แรงงานมากที่สุด คณะกรรมการอาจจะไม่ต้องแยกว่าเป็นฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง ให้คิดว่าทุกคนเป็นกรรมการที่มาช่วยกันทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นายโกวิท สัจจวิเศษ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวเพิ่มเติมว่า นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเรื่องการบริหารการลงทุน เมื่อปรับโครงสร้างกระทรวงให้มีกรอบในเรื่องของการบริหารการลงทุน และต้องให้หน่วยงานปฏิบัติ (Operator) เป็นอิสระ ซึ่งรูปแบบนี้ทางสำนักงานประกันสังคม คณะกรรมการฯจะต้องรีบเร่งเพื่อให้การบริหารการลงทุนมีอิสระจริงๆ เมื่อนำมืออาชีพที่มีประสิทธิภาพเข้ามาจะได้เป็นอิสระจากการบริหารทั้งหมด ซึ่งจะทำให้การลงทุนดีขึ้น สำหรับคณะอนุกรรมการแต่ละคณะที่จะตั้งขึ้นนั้นต้องคัดสรรบุคคลที่มีความรู้เรื่องการลงทุนจริง โดยจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด ภายในเดือนธันวาคมนี้น่าจะเรียบร้อยทุกชุด
ที่มา: http://www.thaigov.go.th