พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการประชุม ดังนี้
รองโฆษประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการหารือทวิภาคีและการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี อย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 2 นี้ว่า สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดียิ่งระหว่างไทยและกัมพูชาในทุกระดับ ทั้งในระดับผู้นำ รัฐบาลและประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งจะมีส่วนอย่างสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและกัมพูชาในทุกมิติ ยิ่งไปกว่านั้นเป็นการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยการเยือนอย่างเป็นทางการในครั้งหลังสุดเมื่อปี 2548 (Working Visit) นายกรัฐมนตรีทั้งสองยังจะได้เร่งรัดประเด็นความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวมอบนโยบายและแนวทางดำเนินนโยบายต่างประเทศว่า ไทยเป็นพันมิตรกับทุกประเทศ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ แสวงหาความเป็นหุ้นส่วน (partnership) พร้อมที่จะขับเคลื่อนการเติบโตและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและภูมิภาคไปพร้อมๆ กัน ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชาต่างจะต้องร่วมมือกันเพื่อช่วยกันทำให้ประชาคมอาเซียนเป็นภูมิภาคที่มั่นคง มั่นคั่งและยั่งยืน
สำหรับการหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระดับทวิภาคีและพหุภาคี ครอบคลุมทั้งด้านมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม โดยมีพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านความมั่นคง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรีด้านสังคม วัฒนธรรมและการศึกษาร่วมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย ร่วมหารือในประเด็นความร่วมมือ อาทิ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษและการเชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษ ความร่วมมือด้านแรงงาน ความร่วมมือด้านพลังงาน การบริหารจัดการภัยพิบัติ การส่งเสริมการค้าและการลงทุนความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร การเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางคมนาคมและการขนส่งผ่านแดน รวมทั้งการหารือความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียนและความท้าทายในระดับภูมิภาค เป็นต้น
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายจะร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามเอกสาร 4 ฉบับ ได้แก่
(1) แถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 2 เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ทางการเมืองที่จะขยายความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้นในด้านสำคัญต่าง ๆ
(2) บันทึกความเข้าใจเพื่อการพัฒนาจุดผ่านแดนแห่งใหม่ที่บ้านหนองเอี่ยน จ.สระแก้ว และสตึงบท จ.บันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา
(3) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน เพื่อเป็นกรอบความร่วมมือทางวิชาการ ความร่วมมือด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน และความร่วมมือด้านการจ้างงาน และ
(4) ข้อตกลงว่าด้วยการจ้างงาน ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้การจ้างงานมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ขจัดปัญหาการจ้างงานผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์
โดยมีกำหนดการโดยย่อ ดังนี้ วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม 2558 ช่วงเช้า เวลา 09.00 น. สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เดินทางถึงไทย ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนรัฐบาล รอให้การต้อนรับ เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ ทำเนียบรัฐบาล หลังจากนั้น เวลา 10.30 น.การหารือข้อราชการกลุ่มเล็กระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ณ ห้องสีงาช้าง และการหารือทวิภาคีแบบเต็มคณะ ณ ห้องสีเขียว เสร็จสิ้นการหารือนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล ไปยังโรงแรมที่พัก เวลา 15.00 น.นายกรัฐมนตรีกัมพูชาพบปะกับคณะนักธุรกิจไทย-กัมพูชา ณ ห้องนภาลัย โรงแรมดุสิตธานี ช่วงเย็นเวลา 19.00 น.นายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีกัมพูชา รวมทั้งเพื่อเป็นการฉลองการครบรอบ 65 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – กัมพูชา ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก
วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม 2558 ช่วงเช้า เวลา 09.00การประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไทย – กัมพูชาอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 2 ณ ตึกสันติไมตรีหลังใน เมื่อเสร็จสิ้นการหารือ นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจและแถลงการณ์ร่วม ณ โถงกลางตึกสันติไมตรี หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและคณะ ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ก่อนที่สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 เพื่อเดินทางกลับกัมพูชา
ที่มา: http://www.thaigov.go.th