เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย เข้าพบรองนายกรัฐมนตรี

ข่าวทั่วไป Thursday December 17, 2015 11:02 —สำนักโฆษก

วันนี้ (17 ธันวาคม 2558) เวลา 10.30 น. นายอีโว ซีเบอร์ (H.E. Mr. Ivo Siweber) เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย เข้าพบรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวยินดีกับเอกอัครราชทูตต่อการเข้ารับหน้าที่ใหม่ และดีใจที่รัฐบาลสวิสได้คัดสรรบุคคลที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาเป็นเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย นอกจากนี้ ยังยินดีที่ความสัมพันธ์ไทย– สมาพันธรัฐสวิสอยู่ในระดับดีมาก เนื่องจากเป็นประเทศที่พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์เคยประทับและทรงศึกษาเมื่อทรงพระเยาว์ นอกจากนี้ ยังมีชุมชนชาวสวิสอาศัยอยู่ในประเทศ แสดงให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ฝ่ายสวิสได้แบ่งปันประสบการณ์ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเมืองและสังคมไทย โดยได้ส่งผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ มาแบ่งปันประสบการณ์ในหลายโอกาส ทั้งในสาขาการปฏิรูปการเมือง กระบวนการปรองดอง การบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี เป็นต้น ซึ่งด้านเอกอัครราชทูต ยังกล่าวว่า ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน เพื่อทำให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายในการเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยไปสู่ประชาธิปไตยอย่างยั่งยืนในอนาคต

นอกจากนี้ เอกอัครราชทูต ยังกล่าวชื่นชมประเทศไทย ที่สามารถจัดการบริหารประเทศได้เป็นอย่างดี ในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเมือง โดยยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ประเทศไทยยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวสวิส ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในระดับประชาชนที่ใกล้ชิด

รองนายกรัฐมนตรี มีความยินดีที่เศรษฐสัมพันธ์ระหว่างไทย – สมาพันธรัฐสวิส มีพลวัตอย่างมาก ปัจจุบัน สมาพันธรัฐสวิสเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่3 ของไทยในยุโรป และไทยเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 2 ของสมาพันธรัฐสวิสในอาเซียนรองจากสิงคโปร์ นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังยินดีที่ทราบว่า สมาพันธรัฐสวิสขอรับสถานะหุ้นส่วนอย่างเป็นทางการของอาเซียน ทั้งนี้ สมาพันธรัฐสวิสมีความสัมพันธ์อันดีกับอาเซียนและกับแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างแข็งขัน ซึ่งไทยเชื่อว่า สมาพันธรัฐสวิสมีศักยภาพและความตั้งใจที่จะเป็นคู่เจรจาเฉพาะสาขากับอาเซียน

ในตอนท้าย ทั้งสองประเทศยังยินดีและเห็นพ้องที่จะกระชับ สนับสนุน พัฒนา ความร่วมมือระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นต่อไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ