ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยถึงผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ครั้งที่ 15 (The 15th ASEAN Telecommunications and IT Ministers Meeting : TELMIN ครั้งที่ 15) ระหว่างวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2558 ณ เมืองดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ว่า ที่ประชุมได้หารือเพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ของประเทศสมาชิกอาเซียน และรับรองแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของอาเซียน 2020 (ASEAN ICT Masterplan 2020 : AIM 2020) ซึ่งเป็นแผนแม่บท ICT ฉบับที่ 2 ของอาเซียนที่จะนำมาใช้ในปี 2559-2563 โดยได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการนำอาเซียนก้าวสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมที่ใช้ดิจิทัลอย่างมั่นคงปลอดภัย นำไปสู่การปรับเปลี่ยนที่จะก่อให้เกิดประชาคมอาเซียนที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม มีความเท่าเทียมทั่วถึงและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ทั้งนี้ แผนแม่บท AIM 2020 มีเป้าหมายสำคัญในการสร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล มีการนำ ICT สมัยใหม่มาใช้เป็นเครื่องมือสร้างการเติบโตของอาเซียน มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะ (Smart City) สร้างโอกาสด้าน ICT ที่หลากหลาย เกิดตลาดดิจิทัลและชุมชนออนไลน์ที่มั่นคงปลอดภัย โดยที่ประชุมได้ให้การรับรองปฏิญญาดานัง (Danang Declaration) ที่มีสาระสำคัญในการรับรองแผนแม่บท AIM 2020 ซึ่งเป็นแผนงานความร่วมมือระหว่างประชาคมเซียน ความร่วมมือกับคู่เจรจาของอาเซียน องค์กรระหว่างประเทศ และผู้ที่เกี่ยวข้องในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยกำหนดเป้าหมายของแผน 5 ด้าน ได้แก่ 1) ระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมทั่วถึงในราคาที่เหมาะสม 2) มีการนำ ICT สมัยใหม่มาใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างการเติบโตของอาเซียน 3) การพัฒนาที่ยั่งยืนด้วย Smart City 4) ใช้ ICT สร้างโอกาสใหม่ๆ ร่วมกันในอาเซียน เช่น การค้าขาย และ 5) ตลาดดิจิทัลและชุมชนออนไลน์ที่มั่นคงปลอดภัย โดยแผนแม่บท AIM 2020 ประกอบด้วย 8 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ 1) การรวมตัวและการปรับเปลี่ยนทางเศรษฐกิจด้วยการใช้ ICT และเทคโนโลยียุคใหม่ 2) การรวมตัวและการสร้างพลังของประชาชนด้วย ICT 3) การสร้างนวัตกรรม 4) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ICT 5) การพัฒนาทุนมนุษย์ 6) ICT ในตลาดเดียว 7) สื่อและเนื้อหารูปแบบใหม่ และ 8) ความมั่นคงปลอดภัยทางสารสนเทศและการรับรองความปลอดภัย
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนและสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ว่าด้วยความร่วมมือด้าน ICT รวมทั้งหารือกับประเทศคู่เจรจาอาเซียน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และ ITU เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของอาเซียน โดยเฉพาะแผนแม่บท AIM 2020 ทั้งในด้านความร่วมมือทางวิชาการและการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการภายใต้กรอบความร่วมมือด้าน ICT ทั้งนี้ ประเทศไทยได้นำเสนอและผลักดันประเด็นการพัฒนา ICT ในด้านต่างๆ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญด้านการพัฒนาทุนมนุษย์ในกลุ่มอาเซียน การผลักดันการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัยด้วยการนำกรอบการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียน (Intra-ASEAN Secure Transaction Framework) ซึ่งประเทศไทยเป็นผู้ริเริ่มดำเนินการมาใช้ในอาเซียน รวมทั้งให้ความสำคัญด้านความร่วมมือในการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์
ดร.อุตตม กล่าวว่า ในระหว่างการประชุมดังกล่าวได้มีโอกาสหารือในระดับทวิภาคีกับรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศกับประเทศสมาชิกอาเซียนและคู่เจรจา รวม 4 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลี และสิงคโปร์ โดยในส่วนของเวียดนาม ได้หารือเรื่องการจัดทำความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) ซึ่งครอบคลุมการระงับข้อพิพาททางออนไลน์ (Online Dispute Resolution : ODR) และ Intra-ASEAN Secure Transactions Framework รวมทั้งแลกเปลี่ยนการดำเนินการด้าน Smart City ส่วนการหารือทวิภาคีกับญี่ปุ่น เป็นเรื่องของความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) เช่น การจัดอบรมหลักสูตรการฝึกปฏิบัติการด้านไซเบอร์ (Cyber Defense Exercise with Recurrence : CYDER) ความร่วมมือด้านการเตือนภัยพิบัติ ความร่วมมือด้านอุตุนิยมวิทยา และการพัฒนาบริการด้านการไปรษณีย์ รวมทั้งการจัดงาน ASEAN-Japan Cyber SEA Games ซึ่งประเทศไทยยินดีสนับสนุนการจัดงานดังกล่าว
สำหรับประเด็นที่มีการหารือทวิภาคีกับเกาหลี ประกอบด้วย นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ของประเทศไทย การเชิญชวนรัฐบาลเกาหลีร่วมลงทุนในโครงการเร่งด่วนของรัฐบาลไทย การส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ด้านดิจิทัลและกลุ่มธุรกิจเกิดใหม่ (Start-Up) การแลกเปลี่ยนความร่วมมือในการพัฒนา Smart City ความร่วมมือด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ ความร่วมมือด้านดาต้าเซ็นเตอร์ การวิจัยร่วม และการจัดทำบันทึกความเข้าใจด้าน ICT ระหว่างไทยกับเกาหลี ส่วนการหารือระดับทวิภาคีกับสิงคโปร์ ได้หารือเรื่องความร่วมมือด้าน Cyber Security เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้าน e-Commerce การแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการพัฒนา Smart City นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย การเชิญชวนภาคเอกชนของสิงคโปร์ร่วมลงทุนในโครงการเร่งด่วนของรัฐบาลไทย ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล การส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ด้านดิจิทัลและกลุ่ม Start-Up การดำเนินการร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงการจัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้าน ICT ระหว่างกระทรวงไอซีทีของไทยกับ Infocomm Development Authority (IDA) ของสิงคโปร์
“ประเทศไทยในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้จัดทำการประเมินผลแผนแม่บท ASEAN ICT Masterplan 2015 (AIM 2015) ได้รายงานผลการประเมินดังกล่าวให้ที่ประชุมรับทราบ ซึ่งจากการประเมินพบว่าประเทศสมาชิกอาเซียนได้ร่วมกันดำเนินงานตามแผนแม่บท AIM 2015 ผ่านโครงการทั้งหมดจำนวน 87 โครงการ และบรรลุเป้าหมายทั้ง 4 ด้าน คือ 1) ใช้ ICT เป็นเครื่องมือในการผลักดันให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ 2) อาเซียนได้รับการยอมรับในฐานะศูนย์กลางด้าน ICT แห่งหนึ่งของโลก 3) ประชากรอาเซียนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และ 4) ICT มีส่วนช่วยส่งเสริมการรวมตัวของอาเซียน โดยเชื่อมั่นว่าประเทศสมาชิกอาเซียนจะร่วมมือกันพัฒนาและใช้ประโยชน์จาก ICT เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชากรอาเซียนต่อไป ส่วนการประชุม TELMIN ครั้งที่ 15 นี้จะส่งเสริมให้เกิดการใช้ ICT สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของประชาคมอาเซียน และนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการหารือทวิภาคีในการยกระดับการพัฒนา การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการพัฒนา ICT ในสาขาต่างๆ รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในประเทศไทยด้วย” ดร.อุตตม กล่าว
ที่มา: http://www.thaigov.go.th