วันนี้ (29 ธ.ค.58) เวลา 18.00 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานเนื่องในโอกาส ครบ “1 ปี การดำเนินโครงการตลาดคลองผดุงกรุงเกษม” โดยมี ผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วยคณะรัฐมนตรีตลอดจน พลเอกวิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางสาวเรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และคณะผู้บริหารจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งจากภาครัฐและรัฐวิสาหกิจพร้อมสื่อมวลชน (รวมทั้งสิ้น จำนวนประมาณ 700 คน) ในโอกาสนี้ นางสาวเรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้กล่าวรายงานว่า ตามที่ นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีดำริให้ดำเนินการจัดตลาดนัดชุมชนบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ด้านข้างทำเนียบรัฐบาล อย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่ การจัดงาน “ตลาดกล้วยไม้คุณภาพ” เมื่อเดือนมกราคม ๒๕๕๘ งาน “ตลาดน้ำวิถีไทยคลองผดุงกรุงเกษม” ซึ่งจัดควบคู่กัน และงาน “วิถีข้าว : วิถีไทย Thai rice : Thainess” ตามดำริของนายกรัฐมนตรี ได้รับการตอบรับจากประชาชน เป็นอย่างดี
ทั้งนี้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการดำเนินโครงการตลาด คลองผดุงกรุงเกษม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดทำแผนการดำเนินงานต่อเนื่องจนถึงเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานเจ้าภาพหลักในแต่ ละเดือน ดำเนินการจัดงานต่อจากงาน“วิถีข้าว : วิถีไทย Thai rice : Thainess” อีกรวม ๑๐ งาน ตามลำดับ ได้แก่ งาน “เทศกาลผักผลไม้ไทยคุณภาพ” งาน “ถนนสายวัฒนธรรม” งาน “เทศกาลไม้ดอกไม้ประดับและปลาสวยงาม” มหกรรม “เมืองสุขภาพดี วิถีชุมชน”
งาน “อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ของขวัญแด่แม่ งาน “ตื่นตาสินค้า GI ตื่นใจอัตลักษณ์ชุมชน” งาน “สุดยอด SMEs ของดี ทั่วไทย” งาน “นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อ SMEs” งาน “OTOP TO ACE มรดกของแผ่นดิน จากท้องถิ่นสู่สากล” งาน “ของที่ระลึกแด่พ่อ ของขวัญปีใหม่” สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ รวมทั้งสิ้น ๑๓ งาน มีร้านค้า/ผู้ประกอบการ เข้าร่วมจำหน่ายในงาน จำนวน ๑,๓๗๔ ร้าน/ราย ผู้เข้าชมงาน รวม ๑,๖๗๖,๒๘๖ คน รวมยอดจำหน่ายและยอดสั่งซื้อ ทั้งสิ้นกว่า ๑๐๐๐ บาท ๙๔๔,๙๒๒,๓๗๓ บาท
ปัจจุบันการดำเนินงานตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ได้มีการขยายผลไปสู่การจัดตลาดนัดในลักษณะเดียวกันในภูมิภาคต่างๆ และ ๔ มุมเมืองของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตามดำรินายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงมหาดไทยได้จัดให้มีตลาดนัดชุมชน ๔ ภาค ภาคเหนือที่จังหวัดตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดบุรีรัมย์ ภาคใต้ที่จังหวัดกระบี่ และภาคกลางที่จังหวัดราชบุรี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกรุงเทพ มหานครรับผิดชอบดำเนินการขยายสู่ปริมณฑลรอบกรุงเทพมหานครใน ๔ มุมเมือง
สำหรับการจัดงาน “๑ ปี ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม”ในวันนี้ จึงมีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของตลาดคลองผดุงกรุงเกษมในรอบ ๑ ปี ที่ผ่านมา และเพื่อเป็นการขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และสื่อมวลชนทุกแขนง ที่ได้ร่วมกันจัดงาน ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ ตลอดจนสนับสนุนการจัดงานของตลาดคลองผดุงกรุงเกษม เป็นอย่างอย่างดียิ่งตลอดระยะเวลา ๑ ปีที่ผ่านมา จนส่งผลให้การดำเนินงานของตลาดคลองผดุงกรุงเกษมประสบผลสำเร็จ บรรลุจุดมุ่งหมายดังที่กล่าวข้างต้น ตอบสนองดำริของนายกรัฐมนตรีที่ให้มีการจัดตลาดนัดชุมชน บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษมข้างทำเนียบรัฐบาล เพื่อเปิดพื้นที่ค้าขายสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย จากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยเน้นส่งเสริมสินค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการของไทยในด้านต่างๆ การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยว การสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน และเพื่อเป็นแนวทางให้หน่วยงานต่างๆ ได้นำไปส่งเสริมและดำเนินการในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการภาครัฐ ตลอดจนการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
อีกทั้งในปี ๒๕๕๙ ยังคงมีการดำเนินโครงการตลาดคลองผดุงกรุงเกษมอย่างต่อเนื่อง โดยได้กำหนดแผนการดำเนินงาน ระยะ ๖ เดือนแรก ระหว่างเดือนมกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๙ แล้ว มีกระทรวงต่างๆ รับเป็นเจ้าภาพในแต่ละเดือน ได้แก่ กระทรวงพัฒนาการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงพลังงานกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตามลำดับ
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบเกียรติบัตรแก่ตัวแทนหน่วยงานต่าง ๆ ที่เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงาน ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม พร้อม กล่าวเปิดงานสรุปความว่า
ในโอกาสครบ 1 ปี ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมในวันนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกภาคส่วนพ่อค้าแม่ค้า และพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ได้มาช่วยกันสร้างสรรค์ตลาดคุณภาพเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยSMEs และการเกษตรกรในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง และยังเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลที่จะสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสร้างความมั่นคงให้กับพี่น้องประชาชน
การร่วมมือของทุกฝ่ายคือพลังสำคัญที่ทำให้เกิดตลาดคลองผดุงกรุงเกษมอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ เกษตรกร และพี่น้องประชาชน ผู้บริโภคได้มาพบปะกัน มีการซื้อขายในราคายุติธรรมพร้อม ๆ ไปกับการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนพี่น้องประชาชนก็จะได้รับประโยชน์เรื่องสินค้าคุณภาพในราคาที่เป็นกันเอง ซึ่งเป็นปัจจัยในการช่วยลดปัญหาค่าครองชีพในชีวิตประจำวันได้
ปัจจุบันตลาดคลองผดุงกรุงเกษมได้สร้างปรากฏการณ์ด้านการจำหน่ายสินค้ามีคุณภาพจากทั่วประเทศจนมีชื่อเสียงโด่งดัง และยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในการมาเรียนรู้และศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่นไทยผ่านศิลปะที่ถ่ายทอดลงในสินค้าอุปโภคบริโภค โดยภายในงานมีกิจกรรมให้ความรู้ด้านต่าง ๆ ที่ผู้ผลิตผู้ประกอบการรวมถึงผู้เข้าร่วมชมงานจะได้รับความรู้ต่าง ๆ มากมาย ทั้งการส่งเสริมการประกอบอาชีพ การส่งเสริมการตลาด และการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ เป็นต้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต่อไปว่า การพัฒนาเศรษฐกิจรวมของประเทศจะสำเร็จได้ จะต้องเริ่มจากจุดเล็ก ๆ ของเศรษฐกิจชุมชนที่มีความเข้มแข็ง มีฐานรากที่มีความมั่นคงเป็นฟันเฟืองที่คอยขับเคลื่อนผลักดันให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างมีคุณภาพไปตามลำดับดังนั้นการยกระดับสินค้าในชุมชนให้สามารถทัดเทียมกับนานาชาติหรือเหนือกว่าจะต้องอาศัยภาคเอกชน ภาคประชาชนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ศึกษาสิ่งรอบตัวอยู่เสมอ เรียนรู้ความต้องการของตลาด แล้วนำมาประยุกต์เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ เป็นนวัตกรรมใหม่โดยหน่วยงานภาครัฐมีหน้าที่สนับสนุนงานด้านวิจัย การส่งเสริมด้านการเงิน และการอำนวยความสะดวกการดำเนินงาน ให้คำปรึกษาคำแนะนำอย่างทั่วถึงและเป็น one stop service เพื่อให้การทำงานมีความรวดเร็ว ไม่ซับซ้อน ไม่เกิดความสับสน เพื่อสร้างความต่อเนื่องให้งานประสบความสำเร็จได้ทันเวลา
ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมได้สร้างมาตรฐานความน่าเชื่อถือของสินค้าที่มีคุณภาพ ด้วยการทำงานของทุกกระทรวงในการเลือกสรรผลิตภัณฑ์สินค้าของไทยมานำเสนอ ซึ่งในแต่ละเดือนกระทรวงที่ได้รับมอบหมายจะเสนอรูปแบบงานเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหน่วยงานและเทศกาลต่าง ๆ ภายในประเทศ โดยได้สร้างความแตกต่าง ความแปลกใหม่ให้กับพี่น้องประชาชน จนสามารถสร้างรายได้และมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 300 ล้านบาท และยังสามารถช่วยเรื่องการเจรจาธุรกิจมียอดสั่งซื้อมากถึงกว่า 600 ล้านบาท จึงถือว่าการจัดตลาดครั้งนี้ทำให้มีเงินสะพัดเกือบ 1 พันล้านบาท ซึ่งความสำเร็จของทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือกันทำงานสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและผู้เริ่มต้นให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และขับเคลื่อนธุรกิจของตัวเองต่อไปได้อย่างราบรื่น
ตอนท้ายของการกล่าวเปิดงานครั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ได้มาช่วยกันสร้างสรรค์ตลาดวิถีชุมชนของไทยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ช่วยกันสนับสนุนและส่งเสริมการประกอบธุรกิจขนาดเล็กให้มีความอุ่นใจ มั่นใจ และเชื่อใจในการทำงานของภาครัฐที่ได้พยายามสร้างมาตรการเพื่อดูแลทุกคนให้มีอาชีพที่มั่นคง ซึ่งส่งผลต่อการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ก้าวหน้า ตลอดจนเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในระดับอาเซียนและระดับโลกในอนาคต
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอชื่นชมทุกภาคส่วนด้วยใจจริงและในปีหน้าขอให้ทุกกระทรวงร่วมแรงร่วมใจกันทำงานให้ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมอยู่ในใจของนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการต่อไป และร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีความมั่งคงและมีเสถียรภาพอย่างยั่งยืนพร้อมกล่าวอวยพรให้ทุกคนและประชาชนคนไทยมีความสุข ความสดใส เดินทางปลอดภัย ท่องเที่ยวกันอย่างระมัดระวังคิดหมายจำนงสิ่งใดขอจงสำเร็จดังปรารถนา และมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงตลอดปี 2559
หลังจากนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกล่าวเปิดงานเสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพร่วมกับคณะผู้บริหารและเจ้าที่ตลอดจนคณะสื่อมวลชนที่มาร่วมงานด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น พร้อมชมการแสดงสินค้าและบริการของหน่วยงานต่าง ๆ และได้กล่าวทักทายผู้ประกอบการที่มาร่วมออกบู้ธด้วยอัธยาศัยดี
*************
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
สุภิญญา รายงาน
ดวงใจ ตรวจ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th