“ปลัดฯอาทิตย์” ส่งสัญญาณกวดขันโรงงานจริงจัง สั่งเข้มทำแผนตรวจโรงงาน/เหมือง รายงานผลทุกเดือนตั้งทีมส่วนกลางมอนิเตอร์อีกชั้น

ข่าวทั่วไป Tuesday December 8, 2015 14:11 —สำนักโฆษก

นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยจากการที่มีการร้องเรียนโรงงานและเหมืองแร่ มาสู่รัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งที่ปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อมวลชน ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจะยกระดับการกำกับดูแลที่เข้มข้นขึ้น เพื่อป้องกันมิให้การประกอบกิจการโรงงานและเหมืองแร่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน รวมถึงเป็นการสร้างความไว้วางใจระหว่างโรงงานและประชาชน ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ของรัฐบาล ทั้งนโยบายคลัสเตอร์อุตสาหกรรม และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษด้วย

“เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ผมได้มีหนังสือเรียนอุตสาหกรรมจังหวัดทุกจังหวัด ขอให้สอดส่อง ตรวจติดตาม และกำกับดูแลสถานประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยให้ดำเนินการ 3 อย่าง คือ 1.จัดทำแผนการตรวจ กำกับ ดูแลสถานประกอบกิจการโรงงานและเหมืองแร่ ส่งให้กระทรวงฯ ภายในวันที่ 11 ธันวาคม 2558 2.ดำเนินการตรวจ กำกับ ดูแลตามแผนการตรวจดังกล่าว และแจ้งเตือนสถานประกอบการในพื้นที่ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีพบการกระทำผิดให้ดำเนินการสั่งการและดำเนินคดีตามกฎหมายทุกรายไม่มีข้อยกเว้น และ 3.จัดส่งรายงานผลการตรวจดังกล่าวทุกวันที่ 5 ของเดือนถัดไป โดยครั้งแรกให้รายงานภายในวันที่ 5 มกราคม 2559 ซึ่งกระทรวงฯ จะมีทีมงานติดตามประเมินผลอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป และหากปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้บังคับบัญชา ปล่อยปละละเลยจะถือเป็นการละเลยต่อหน้าที่ และจะได้ดำเนินการกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด เช่น การย้ายมาช่วยราชการที่ส่วนกลาง และรวบรวมเป็นผลงานในการแต่งตั้งโยกย้าย หรือสั่งสอบด้านวินัย เป็นต้น” นายอาทิตย์ กล่าว

ส่วนกรณีที่มีประชาชนร้องเรียนโรงงานใน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เข้ามานั้นได้มอบหมายให้นายพิสิฐ รังสฤษฏ์วุฒิกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหัวหน้าทีมลงพื้นที่พร้อมด้วยข้าราชการในพื้นที่ผลการตรวจโรงงาน 12 แห่ง พบว่ามีโรงงาน 3 แห่งไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ได้แก่

1) บริษัท ออสเตรเลีย เฟอร์ติไลซ จำกัด ประกอบกิจการผสม แบ่งบรรจุปุ๋ยชีวภาพและเคมีเพื่อการเกษตร พบว่าไม่มีระบบขจัดกลิ่นไอสารเคมี และระบบบำบัดน้ำเสียมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ ได้สั่งการตามมาตรา 39 วรรคหนึ่ง ให้หยุดประกอบกิจการโรงงานในส่วนที่มีการแบ่งบรรจุผลิตภัณฑ์ มีกำหนด 45 วันนับแต่วันที่ทราบคำสั่ง และให้ติดตั้งระบบขจัดกลิ่นไอสารเคมีและปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพเพียงพอ 2) บริษัท รวีภัทร ไบโอเทค จำกัด ประกอบกิจการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี และปุ๋ยอินทรีย์ผสมปุ๋ยเคมี และแบ่งบรรจุปุ๋ย มีปัญหาเรื่องฝุ่นละออง ได้สั่งการตามมาตรา 39 ให้ปรับปรุงแก้ไขโรงงาน โดยให้จัดหามาตรการในการจัดการเรื่องฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นจากกระบวนผลิตและกองวัตถุดิบให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 มกราคม 2559 และ 3) บริษัท เบสท์ ไทย อโกรเทค จำกัด ประกอบกิจการผลิตปุ๋ยอินทรีย์และผสมปุ๋ยเคมี พบระบบขจัดฝุ่นละอองชำรุด ได้สั่งการตามมาตรา 39 ให้ปรับปรุงแก้ไขระบบบำบัดมลพิษทางอากาศให้มีประสิทธิภาพให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมก่อนระบายออกนอกโรงงานให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 มกราคม 2559

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ