วันนี้ (8 มกราคม 2559) เวลา 12.00 น. ณ บริเวณที่พักผู้สื่อข่าว ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมงานเลี้ยงฉลองวันปีใหม่ 2559 ซึ่งจัดโดยสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ภายใต้แนวคิดงานวันเด็ก โดยผู้สื่อข่าวบางส่วนได้มีการแต่งตัวย้อยวันเป็นเด็กร่วมงาน
โอกาสนี้ ผู้สื่อข่าวได้นำกล้วยให้นายกรัฐมนตรีรับประทานพร้อมระบุว่าจะได้ทำงานได้อย่างราบรื่น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปีนี้จะยากขึ้น เพราะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง พร้อมถามถึงครอบครัวของผู้สื่อข่าว และกล่าวถึงบุตรสาวของตัวเอง ว่าไม่ต้องการให้ไปไหนเพราะเป็นห่วงว่าจะลำบาก ภรรยาก็ลำบาก ส่วนเรื่องแฟนของลูกสาวนั้น ลูกสาวบอกว่าถ้ามีแฟนต้องหาให้ดีกว่าพ่อ แต่ไม่ดีกว่า ไม่มีก็ไม่เป็นไร ซึ่งที่ผ่านมาก็มีคนมาจีบลูกสาว แต่ตอนนี้ไม่เห็นแล้ว ซึ่งการเลี้ยงลูกแฝดเลี้ยงยาก ต้องเอาเหตุผลเข้าสู้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า เด็กสมัยนี้เอาหัวใจมาก่อนความรู้สึก ต้องเอาเหตุผลและสมองมาด้วย เอาความรู้สึกอย่างเดียวไม่ได้ เป็นรักแรกพบไม่ดี
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เนื่องในโอกาสปีใหม่นี้ ทุกคนมีเวลาพักผ่อน ส่วนตัวเองก็มีเวลา แต่ไม่ได้หยุดคิดเพราะต้องเตรียมขับเคลื่อนงานในปี 2559 เพราะถ้าเริ่มไม่ได้ ต่อไปก็จะเดินหน้าไม่ได้ จึงขอความร่วมมือให้เป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้องไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นอีก ส่วนตัวอยากให้ประชามติผ่านและเลือกตั้งโดยไม่มีความรุนแรง แต่หากต้องการให้เป็นแบบเดิมก็แล้วแต่ แต่ตัวเองไม่ต้องการให้มีการกล่าวหากัน เพราะรัฐบาลไม่ได้เป็นการเมือง ตั้งแต่วันแรกก็ยังไม่รู้ว่าทำมาถึงวันนี้ได้อย่างไร มีทางง่ายๆ กับทางลำบาก ตัวเองเลือกทางลำบากแต่มีเหตุผลว่าเข้ามาทำไม ทำเพื่อใคร ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ยากสำหรับตัวเองไม่เป็นไร แต่ขอให้ง่ายต่อการใช้ชีวิตของประชาชน
ทั้งนี้ ที่ตัดสินใจเข้ามาเพราะคนจน ซึ่งต้องเรียนรู้ว่าจะอยู่อย่างไร ไม่ใช่ใช้แต่เงิน วันนี้จะลำบากถ้าไม่ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ต้องการให้เข้าใจในภาพรวม ซึ่งความมั่นคงเป็นบ่อเกิดของทุกอย่าง บ้านเมืองสงบ มีเรื่องความเชื่อมั่น ขอให้ชั่งน้ำหนักสิ่งที่ตัวเองและรัฐบาลทำ เปรียบเทียบกับรัฐบาลที่ผ่านมา
ส่วนราคายาง ถ้าขึ้นราคาให้ใครจะเป็นคนจ่ายเงิน ตอนนี้ก็กำลังเร่งให้ แต่ไม่ได้พูดออกมา ยืนยันว่าเข้าใจความลำบากของเกษตรกรชาวสวนยาง แต่ตอนรายได้ดีก็ไม่บ่น ตอนนี้ก็ขอให้ช่วยกันให้ความร่วมมือ เราใช้งบประมาณอย่างเดียวไม่ได้ หากใช้งบประมาณในส่วนนี้ เกษตรกรอื่นก็จะตามมา ตอนนี้กำลังลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนข้อเสนอที่ให้นำยางไปทำถนนและพยุงราคายางและข้อเสนอของเกษตรกรที่ให้อยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท นายกรัฐมนตรีระบุว่า รัฐบาลทำอยู่นำไปทำถนน แต่ตอนนี้ราคาถนนสูงขึ้น 15 % ถ้าอุดหนุนราคายางให้ได้ 60 บาท จะกลายเป็นอัดยายซื้อขนมยาย ค่ายางและค่าถนนจะแพงขึ้น เสียทั้ง 2 อย่าง ตอนนี้ไม่ขอบอกว่ากำลังทำอะไร ขอให้เป็นไปตามระบบ และใช้งบประมาณไปกว่า 2.5 แสนล้านบาทแล้ว โดยไม่ต้องการให้กลไกตลาดบิดเบือน แต่กำลังสร้างกลไกเพื่อนำไปสู่การผลิตให้ได้ ซึ่งในอดีตเคยสั่งให้มีการลดการผลิต ลดการปลูกแต่ก็ไม่สำเร็จ เกษตรกรก็ไม่ยอม เรื่องนี้มีการพูดมานาน พูดแล้วก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะเกษตรกรเชื่อนักการเมืองท้องถิ่นมากกว่า ที่ผ่านมามีการส่งเสริมการปลูกยาง บุกรุกป่าเพื่อปลูกยางบนเขา เมื่อสั่งตัดก็หาว่าทำร้ายคนจน จึงต้องทำให้เกิดจากความสมัครใจ ส่วนการชุมนุมประท้วง ได้สั่งการไปแล้ว ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการพูดคุยกับตัวแทนเกษตรกรไปแล้วเมื่อวานนี้ ตัวเองก็รักเกษตรกรทุกคน แต่ไม่มีเงินจะให้ทำอย่างไร ทุกเรื่องถ้าเรียกร้อง ประท้วง ข่มขู่ ตัวเองจะไม่ช่วยแก้ปัญหาให้ แต่จะช่วยแก้ไขปัญหาในแบบของตน ไปประท้วงบนถนนก็โดนคดี ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย อย่าหาว่ารังแกคนจน
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ต้องการอยู่กับสื่อทำเนียบ เพราะถือว่าเป็นสมาชิกร่วมกัน แต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้คุย ต้องการให้ทุกคนได้รู้ เราไม่สามารถได้อะไรทุกอย่าง และปีกว่าที่ผ่านมาไม่สามารถทำได้หมด ซึ่งถ้าหมดหน้าที่ก็จะกลับบ้านนอนพักผ่อน ดูลูกหลานโตมา และน่ากังวลว่าวันหน้าจะมีงานทำไหม ไม่รู้จะทำเพื่ออะไร ต้องการทำให้เป็นมรดก สื่อน่ารักทุกคน ไม่ได้โกรธใครเลย ต้องการให้สร้างสังคมให้ปลอดภัย ไม่ได้ต้องการให้เขียนสนับสนุนตัวเอง แต่ขอให้นำเสนอสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำด้วยให้คนได้ตัดสินใจ ต้องสร้างใหม่ให้คนมีเหตุมีผล อย่าเขียนให้ทะเลาะกัน บอกแค่ฝ่ายไหนบอกว่ายังไง ทำไมเราต้องทำให้เกิดความขัดแย้ง
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้อวยพรวันปีใหม่ให้ผู้สื่อข่าวมีความสุข ให้โอกาสและให้อภัยทุกคน และขอรวยอย่างพอเพียง หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ร่วมรับประทานอาหารและถ่ายภาพร่วมกับสื่อมวลชนและช่างภาพสายทำเนียบรัฐบาลอย่างเป็นกันเอง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th