วันนี้ ( 8 ม.ค.59 ) เวลา 09.00 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 ครั้งที่ 1 / 2559 โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา พลเอก วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโดยมี นายยุทธศักดิ์ ศุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการและเลขานุการ
นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานที่ประชุมได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวของประเทศไทยในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพึ่งพอใจ และคาดว่า ปีต่อ ๆ ไป อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามเห็นควรมีการจัดระเบียงที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวให้ดีขึ้นพร้อมรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวควรให้ทุกภาคส่วนร่วมช่วยกันดูแลเพื่อเพิ่มรายได้ให้มากยิ่งขึ้น ในการนำมาพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า
หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้แถลงข่าวผลการประชุม ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ที่ประชุมรับทราบ ผลการดำเนินงานปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยสามารถสร้างรายได้ถึง 2.23 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศ 29.88 ล้านคน นำรายได้เข้าประเทศ 1.44 ล้านล้านบาท และคนไทยเดินทาง 138.8 ล้านครั้ง ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนในประเทศ เจ็ดแสนเก้าหมื่นล้านบาท และการกระจายรายได้ตัวนักท่องเที่ยวที่ไปยังเมืองท่องเที่ยวรองเฉพาะ 12 เมืองต้องห้ามพลาดเพิ่มขึ้นกว่า 13 % อีกทั้งสามารถสร้างกระแสความเป็นไทย และ วิถีไทย ในวงกว้าง ทำให้คนไทยเกิดความสนใจนำไปใช้ร่วมกัน รักและเห็นความสำคัญในวิถีไทย วิถีถิ่นและภาคภูมิใจในความเป็นไทย อีกทั้งเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน และชุมชนในการเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะปลูกฝังให้เด็กรุ่นใหม่ให้ความสนใจในวิถีและอัตลักษณ์ของความเป็นไทยอีกด้วย ตลอดจนรับทราบการเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวใหม่ 22 เมือง ต้องห้ามพลาด ทำให้มีการหมุนเวียนรายได้เพิ่มเติม13.41% สร้างการท่องเที่ยวเชื่อมโยงทำให้มีการกระจายรายได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ ให้คณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) เป็นประธานได้สานต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีไทยต่อเนื่องในปี 2559 โดยตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยว 2.3 ล้านล้านบาท และใช้กลไกขับเคลื่อนนโยบายประชารัฐตอบสนองยุทธศาสตร์ 4 เสาหลักประกอบด้วย
ธรรมภิบาล ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างสมดุลในทุกมิติ ทั้งการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวคุณภาพ เพิ่มการใช้จ่าย กระจายนักท่องเที่ยวสู่พื้นที่ท่องเที่ยวรอง ส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชน รวมทั้ง ขยายช่วงเวลาสู่วันธรรมดาและช่วงนอกฤดูกาลเพื่อลดการกระจุกตัวและกระจายผลประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว โดยสอดคล้องกับขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่ ปี 59 จะเปิดตัวเมืองท่องเที่ยวใหม่อีก 12 เมือง ชุมชนกิจกรรม
การสร้างนวัตกรรม ปรับแนวทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ส่งเสริมในลักษณะ Cultural Marketing โดยเน้นการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวด้วยวิถีไทยและคนไทยชความแข็งแรงของ Thai Hospitality ผนวกกับการเพิ่มมูลค่าด้วยการสร้าง Brand ร่วมกับ ผู้ประกอบการและชุมชนในการพัฒนาสินค้าและบริการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพมาตรฐานบนฐานของความเป็นของแท้ของจริง (Authenticity) ของชุมชนที่แตกต่างและลอกเลียนไม่ได้และต่อยอดการพัฒนาจุดเด่นและสร้าง Brand ชุมชน การสร้างผลิตภาพการยกระดับคุณภาพมนุษย์ สร้างความเข้มแข็งให้กับ Thai Hospitality กระตุ้นจิตสำนึก สร้างและรักษาบุคลิกภาพของคนไทยให้ยังคงความเป็นไทย บริการนักท่องเที่ยวจากใจ รวมทั้งมุ่งการพัฒนายกระดับมาตรฐานความสามารถบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้สามารถให้บริการ และสามารถประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวได้อย่างมีคุณภาพและสะท้อนความเป็นไทยอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่งเสริมการมีส่วนร่วมเพื่อความมั่นคงของประเทศ ใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือให้คนไทยรู้จักประเทศไทยในเชิงลึกทั้งในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ทรัพยากร จนสามารถเกิดความรักชาติและภูมิใจในความเป็นไทย โดยส่งเสริมการท่องเที่ยวเรียนรู้และสร้างโอกาสให้คนไทยทุกกลุ่มเดินทางท่องเที่ยว รวมทั้ง สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และ ชุมชน ในการฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวสร้างความปลอดภัยในการท่องเที่ยว การขยายเครือข่ายร้านอาหาร ถนนอาหารที่ได้มาตรฐานสุขอนามัย ซึ่งจะเป็นฐานหลักในการสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ตอนท้ายของการประชุมได้มีมติเห็นชอบในการ ส่งต่อการดำเนินงานต่าง ๆ ของคณะกรรมการอำนวยการฯ ไปให้คณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ เพื่อผลักดันการดำเนินงานปี 2559 ต่อไป เป็นการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ความปลอดภัย ความสะอาดสุขอนามัยและการกระจายรายได้ด้วยการต่อยอดสินค้าขาย เช่น ให้เศรษฐกิจชุมชนหมุนเวียนมากขึ้นด้วย โครงการสถานีสุขใจ ( ประชารัฐ) ภายในปั้มน้ำมัน ปตท. ทั่วประเทศซึ่งจะนำร่องกลางเดือน กุมภาพันธ์ ศกนี้ พร้อมทั้งการพัฒนารูปแบบสินค้าให้น่าดึงดูดใจแก่นักท่องเที่ยว ตลอดจนโครงการ one stop service ในการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว หรือโครงการ Thailand Tourism Gateway อีกทั้งมีการ พัฒนาบุคลากรให้รองรับนักท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับรายได้การท่องเที่ยวเพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับประชาชนในท้องถิ่นที่ไม่มีส่วนได้ ส่วนเสียกับการท่องเที่ยวในท้องถิ่นของตนเอง แต่ได้รับผลกระทบด้านค่าครองชีพสูงและการจราจรติดขัดว่าเห็นควรพิจารณาให้ความสำคัญและดูแลประชาชนกลุ่มดังกล่าวอย่างไรบ้างให้มีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรมหรือมีบทบาทด้านการท่องเที่ยวในท้องถิ่นของตนเองด้วย
**********************
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
สุภิญญา รายงาน
ดวงใจ ตรวจ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th