พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เข้าจับกุมเด็กสาว อายุ ๑๖ ปี ที่ตั้งตัวเป็นแม่เล้าแล้วชักชวนเพื่อนสนิท ๓ คน ร่วมค้าประเวณีเพื่อนำเงินไปเที่ยวเตร่ เบื้องต้นเด็กสาวดังกล่าวถูกแจ้ง ๓ ข้อกล่าวหาหนัก รวมทั้งความผิดฐานค้ามนุษย์ ส่วนเพื่อนสนิทที่เป็นผู้เสียหาย ๓ คน ถูกส่งตัวไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดชลบุรี ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ของบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดชลบุรี เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและ ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้เสียหายทั้งสามคน ซึ่งจากนี้ได้ประสานส่งต่อไปยังสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (บ้านเกร็ดตระการ) จังหวัดนนทบุรี เพื่อให้การคุ้มครองผู้เสียหาย จากการค้ามนุษย์ต่อไป และกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมหญิง อายุ ๒๗ ปี ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเป็นผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ภายหลังตรวจสอบพบว่าหญิงดังกล่าวนำลูกสาว อายุ ๑๓ ปี มาค้าประเวณีที่ร้านคาราโอเกะและโรงแรมในพื้นที่ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี เป็นจำนวนถึง ๓๕ ครั้ง จนทำให้ตั้งครรภ์ได้ ๖ เดือน ตนได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กหญิงดังกล่าว ล่าสุด ได้เข้าอยู่ในความคุ้มครองชั่วคราวของบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดสระบุรี
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณี ชายชรา อายุ ๘๖ ปี มีสุขภาพแข็งแรง เป็นคนอารมณ์ดี มีรายได้ เลี้ยงครอบครัวให้มีพอกินพอใช้มาจนถึงปัจจุบันด้วยการขายผลไม้ด้วยรถเข็นไปตามเส้นทางตลาดวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท และขายลูกอม ขนมเด็ก ในราคาถูกด้วย ถ้าถูกใจจะแถมฟรี เพราะอยากทำบุญ ทำให้มีลูกค้าที่หลากหลายติดอกติดใจ ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาทยกย่องให้เป็นผู้สูงอายุต้นแบบ ตนขอชื่นชมและยกย่องชายชราดังกล่าวเป็นตัวอย่างของผู้สูงอายุที่มีอายุยืน พร้อมด้วยการมีสุขภาพกายที่แข็งแรงจากการออกกำลังกายทุกวันด้วยการเข็นรถขายของ มีสุขภาพจิตที่ดีจากการเป็นคนใจบุญ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และมีความจำที่ดีจากการคิดคำนวณเงินในการขายของ นอกจากนี้ ยังเป็นแบบอย่างที่ดีของความขยันหมั่นเพียรแก่เยาวชนอีกด้วย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th