รูปแบบการทำงานของทูตพาณิชย์ต้องทำงานทั้งด้านนโยบายและกฎระเบียบ (Regime) และส่งเสริมการค้า (Promotion) เน้นผลักดันและหาทางขยายลู่ตลาดทางการค้าและการลงทุน การส่งเสริมการตลาดทั้งการค้าสินค้า และการค้าภาคบริการซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ ได้แก่ ธุรกิจสุขภาพและความงาม ธุรกิจการศึกษา(Education) ธุรกิจ Hospitality ธุรกิจโลจิสติกส์ด้านการค้า Digital Content/Entertainment การบริการวิชาชีพ (Professional Services ) สำหรับการลงทุนในต่างประเทศ เน้นการนำร่องไปยังกลุ่ม CLMV โดยเฉพาะกัมพูชา และเวียดนาม เสริมสร้างโอกาสและหาช่องทางการลงทุนให้นักลงทุนไทย รายใหม่ รายย่อย ให้เติบโตแข็งแรงต่อไป ขณะเดียวกันต้องผลักดันให้มีการลงทุนของต่างประเทศในไทยเพื่อสนับสนุนด้านการค้าและให้ไทยอยู่บนห่วงโซ่การผลิตของโลก เช่น การจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (International Headquarters: IHQ) ในไทย ให้ความสำคัญในประเด็นด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าซึ่งจะมีส่วนช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตลอดจนศึกษาติดตามกฎระเบียบ มาตรการทางด้านการค้าใหม่ ๆ ของประเทศที่ประจำการซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการค้าและการลงทุนของไทย และจะต้องรายงานเข้ามายังกระทรวงอย่างทันท่วงที
ภารกิจของทูตพาณิชย์อีกประการหนึ่งคือ กรณีของทูตพาณิชย์ไปประจำการในอาเซียน ต้องสนับสนุนการเป็น ASEAN HUB ของไทย สำหรับทูตพาณิชย์ที่ไปประจำการในต่างประเทศสมาชิก TPP ต้องให้ความสำคัญกับความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (Trans-Pacific Strategic Economic Partnership Agreement : TPP) ซึ่งมีนัยสำคัญต่อการค้าของไทย และควรศึกษาปฏิกิริยาตอบสนองของประเทศสมาชิกในทุกแง่ทุกมุมที่เป็นประโยชน์ และส่งข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์แล้วให้ส่วนกลางเพื่อประกอบการตัดสินใจของไทย สำหรับผู้ที่ไปประจำการในตลาดจีน ตะวันออกกลาง ยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ต้องปรับการทำงานเป็นเชิงรุก แสวงหาและจัดทำข้อมูลข่าวสารเชิงลึกที่ผ่านการวิเคราะห์แล้ว อาทิ แนวโน้มตลาด และความต้องการของการเจาะตลาดที่มีลักษณะเฉพาะ (Niche Market) รวมทั้งปัจจัยที่จะสร้างมูลค้าเพิ่มให้แก่การค้า อาทิ บรรจุภัณฑ์
รัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์ ย้ำว่าการส่งเสริมการตลาดต่างประเทศของไทย ต้องเร่งพัฒนาต่อยอดสินค้าและบริการส่งออกของไทย โดยให้ความสำคัญแก่การเพิ่มหรือสร้างมูลค่าเพิ่ม อาทิ การออกแบบ
การสร้างเรื่องราวของสินค้าและบริการ การสร้างนวัตกรรม เพื่อสร้างความแตกต่างและความหลากหลาย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการขับเคลื่อนให้ภาคการค้าและการส่งออกของไทยขยายตัว
ที่มา: http://www.thaigov.go.th