รองนายกรัฐมนตรีและประธานสมาคมยูโรเปียนเพื่อธุรกิจและการพาณิชย์(EABC)หารือในเรื่องความมั่นใจของนักธุรกิจยุโรปต่อสถานการณ์ในประเทศไทย โดยประธาน EABC กล่าวว่า EABC เป็นตัวแทนของนักลงทุนยุโรปในประเทศไทยและมีความเข้าใจต่อสถานการณในเมืองไทยตอนนี้เป็นอย่างดี พร้อมยังชื่นชมการปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลงที่รัฐบาลได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา อาทิ การแก้ไขปัญหาคอรัปชั่น การปราบปรามการค้ามนุษย์ การแก้ไขปัญหา IUU รวมถึงการปรับปรุงกฎระเบียบในการทำให้การดำเนินการทางธุรกิจมีความรวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น ประธาน EABC ยังเน้นย้ำว่า จะพยายามอธิบายสถานการณ์ในประเทศไทยให้สหภาพยุโรปมีความเข้าใจที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเรียกภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยกลับคืนมา เพื่อทำให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหภาพยุโรปและไทยดำเนินต่อไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจรจาการค้าเสรี (FTA) ไทย – EU ที่ถูกระงับไป
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงขอบคุณ EABC ที่พยายามผลักดันและช่วยสร้างความมั่นใจในสถานการณ์ทางการเมืองของไทยให้แก่ชาวยุโรป นักลงทุนยุโรป รวมถึงสหภาพยุโรป มาอย่างต่อเนื่อง ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและประธาน EABC ยังได้หารือกันในเรื่องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โดยในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางราง EABC เสนอให้ไทยใช้ระบบการให้สัญญาณและการควบคุมการเดินรถของยุโรป ซึ่งมีจุดแข็งหลายประการ อาทิ ประหยัดงบประมาณบำรุงรักษาในระยะยาว ประธาน EABC กล่าวเพิ่มเติมว่า ยินดีร่วมมือกับไทยในเรื่องที่ยุโรปมีความเชี่ยวชาญในด้านอื่นๆอีก อาทิ การพัฒนาการศึกษา การพัฒนาดิจิตอล อุตสาหรรมเทคโนโลยีชั้นสูง เป็นต้น
นอกจากนี้ ประธาน EABC ยังได้แสดงความกังวลเรื่อง ระเบียบฉลากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่ง EABC เข้าใจดีว่ามีจุดประสงค์เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้และลดการชักจูงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ระเบียบดังกล่าวยังขาดความชัดเจนในเรื่องการใช้ดุลยพินิจส่วนบุคคลในการตีความเนื้อหา ส่งผลให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจดังกล่าวสับสน ซึ่งทางรองนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รับทราบข้อมูลแล้ว จะนำไปพิจารณาไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ในช่วงท้าย ประธาน EABC ยังได้กล่าวเชิญชวนรองนายกรัฐมนตรีไปยุโรปเพื่อชี้แจงสถานการณ์ในประเทศไทยให้นักธุรกิจในยุโรปเข้าใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีขอรับไปพิจารณาและจะแจ้งรายละเอียดภายหลัง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th