รัฐบาลแจงอย่าเปรียบเทียบโครงการรับจำนำข้าวกับการช่วยเหลือชาวสวนยาง ยิ่งเปรียบยิ่งตอกย้ำทุจริตรับจำนำข้าว ชี้รับซื้อยางโปร่งใสตรวจรัฐบาลแจงอย่าเปรียบเทียบโครงการรับจำนำข้าวกับการช่วยเหลือชาวสวนยาง ยิ่งเปรียบยิ่งตอกย้ำทุจริตรับจำนำข้าว ชี้รับซื้อยางโปร่งใสต

ข่าวทั่วไป Tuesday January 19, 2016 14:52 —สำนักโฆษก

พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีพรรคเพื่อไทยพยายามเชื่อมโยงเรื่องการช่วยเหลือชาวสวนยางของรัฐบาลกับโครงการรับจำนำข้าวในอดีตว่า ไม่อยากให้สังคมหรือพรรคเพื่อไทยเข้าใจผิดว่าทั้งสองโครงการสามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ เพราะเพียงที่มาก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิงแล้ว

“โครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่ใช้หาเสียงก่อนเลือกตั้ง ไม่ใช่โครงการที่ผิด แต่เมื่อดำเนินการแล้ว มีผู้ทักท้วงว่ามีการทุจริต และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าว ยังปล่อยให้ดำเนินการต่อไปโดยมิได้ระงับยับยั้งหรือตรวจสอบ จนเกิดความเสียหายอย่างมหาศาล

ส่วนการช่วยเหลือชาวสวนยางเป็นการทำหน้าที่ของรัฐบาลเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น เป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะเกษตรกรมีความเดือดร้อน อันเนื่องมาจากราคายางในประเทสตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีนักการเมืองเข้ามาแทรกแซง และมีแนวโน้มที่จะเกิดความขัดแย้ง จึงมอบให้ กยท.เข้าช่วยเหลือชาวสวนยาง โดยใช้อำนาจตาม ม.8 และม.9 แห่ง พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558”

พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ โครงการรับจำนำข้าวเป็นการใช้เงินงบประมาณอย่างไม่จำกัดรับจำนำข้าวทุกเมล็ดมาสต็อกไว้ โดยตั้งราคาสูงกว่าตลาดมาก ถือเป็นภาระทางการคลังอย่างมากและสุ่มเสี่ยงที่คุณภาพข้าวจะต่ำลงเรื่อยๆ แต่การรับซื้อยางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเป็นการรับซื้อแบบจำกัดจำนวนที่ 100,000 ตัน จากเกษตรกรรายย่อยโดยตรง ณ จุดรับซื้อ 1,500 จุด ในราคาที่สูงกว่าตลาดเล็กน้อยที่ กก.ละ 45 บาท หรือลดทอนลงไปตามประเภทของยาง เป็นการซื้อมาแล้วขายต่อเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมตามความต้องการผลิตภัณฑ์แต่ละประเทศของกระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ และตลาดอื่น ๆ ภายในประเทศ โดย กยท. ได้ขอความร่วมมือไปยัง อคส. และ คสช. ในการร่วมดำเนินการ

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการป้องกันไม่ให้มีการนำยางที่ขายไปแล้ว หมุนเวียนกลับมาขายอีก โดยให้ คสช.ลงไปตรวจสอบคลังเก็บยางหรือผู้รับซื้ออย่างใกล้ชิด

“การแสดงความเห็นของพรรคเพื่อไทยเป็นการยอมรับว่ามีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวจริง จึงพยายามเชื่อมโยงเทียบเคียงทั้งสองเรื่องเข้าด้วยกัน เพื่อให้สังคมคิดว่าการช่วยเหลือชาวสวนยางมีการทุจริตด้วย ถือเป็นการฉวยโอกาสติติงไปล่วงหน้า ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการทักท้วงหรือเกิดการทุจริตขึ้นแต่อย่างใด จึงไม่มีมูลเหตุที่จะกล่าวหาหรือฟ้องร้อง พล.อ.ประยุทธ์ให้รับผิดเช่นเดียวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์”สอบได้ ขาดมูลเหตุกล่าวหานายกฯ

พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีพรรคเพื่อไทยพยายามเชื่อมโยงเรื่องการช่วยเหลือชาวสวนยางของรัฐบาลกับโครงการรับจำนำข้าวในอดีตว่า ไม่อยากให้สังคมหรือพรรคเพื่อไทยเข้าใจผิดว่าทั้งสองโครงการสามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ เพราะเพียงที่มาก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิงแล้ว

“โครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่ใช้หาเสียงก่อนเลือกตั้ง ไม่ใช่โครงการที่ผิด แต่เมื่อดำเนินการแล้ว มีผู้ทักท้วงว่ามีการทุจริต และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าว ยังปล่อยให้ดำเนินการต่อไปโดยมิได้ระงับยับยั้งหรือตรวจสอบ จนเกิดความเสียหายอย่างมหาศาล

ส่วนการช่วยเหลือชาวสวนยางเป็นการทำหน้าที่ของรัฐบาลเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น เป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะเกษตรกรมีความเดือดร้อน อันเนื่องมาจากราคายางในประเทสตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีนักการเมืองเข้ามาแทรกแซง และมีแนวโน้มที่จะเกิดความขัดแย้ง จึงมอบให้ กยท.เข้าช่วยเหลือชาวสวนยาง โดยใช้อำนาจตาม ม.8 และม.9 แห่ง พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558”

พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ โครงการรับจำนำข้าวเป็นการใช้เงินงบประมาณอย่างไม่จำกัดรับจำนำข้าวทุกเมล็ดมาสต็อกไว้ โดยตั้งราคาสูงกว่าตลาดมาก ถือเป็นภาระทางการคลังอย่างมากและสุ่มเสี่ยงที่คุณภาพข้าวจะต่ำลงเรื่อยๆ แต่การรับซื้อยางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเป็นการรับซื้อแบบจำกัดจำนวนที่ 100,000 ตัน จากเกษตรกรรายย่อยโดยตรง ณ จุดรับซื้อ 1,500 จุด ในราคาที่สูงกว่าตลาดเล็กน้อยที่ กก.ละ 45 บาท หรือลดทอนลงไปตามประเภทของยาง เป็นการซื้อมาแล้วขายต่อเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมตามความต้องการผลิตภัณฑ์แต่ละประเทศของกระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ และตลาดอื่น ๆ ภายในประเทศ โดย กยท. ได้ขอความร่วมมือไปยัง อคส. และ คสช. ในการร่วมดำเนินการ

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการป้องกันไม่ให้มีการนำยางที่ขายไปแล้ว หมุนเวียนกลับมาขายอีก โดยให้ คสช.ลงไปตรวจสอบคลังเก็บยางหรือผู้รับซื้ออย่างใกล้ชิด

“การแสดงความเห็นของพรรคเพื่อไทยเป็นการยอมรับว่ามีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวจริง จึงพยายามเชื่อมโยงเทียบเคียงทั้งสองเรื่องเข้าด้วยกัน เพื่อให้สังคมคิดว่าการช่วยเหลือชาวสวนยางมีการทุจริตด้วย ถือเป็นการฉวยโอกาสติติงไปล่วงหน้า ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการทักท้วงหรือเกิดการทุจริตขึ้นแต่อย่างใด จึงไม่มีมูลเหตุที่จะกล่าวหาหรือฟ้องร้อง พล.อ.ประยุทธ์ให้รับผิดเช่นเดียวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์”

*************************

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงานการประชาสัมพันธ์

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ