หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ชมนิทรรศการและการนำเสนอข้อมูลผ่านระบบวีดีทัศน์แล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานครั้งนี้ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติในคราวประชุมเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2558 ได้สั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เร่งดำเนินการพิจารณากำหนดแนวเขตป่าไม้ใหม่ โดยจัดทำเป็นแผนที่ดิจิทัล มาตราส่วน 1:4000 ให้แล้วเสร็จโดยเร็วนั้น
ต่อมาในวันที่ 22 กันยายน 2558 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4000 และแต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4000 (One Map) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกรรมการ มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย อำนวยการและกำกับดูแลการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4000 แบบดิจิทัลและรูปแบบอื่น ๆ ที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกส่วนราชการใช้และยึดถือเป็นแนวทางเดียวกัน
หลังจากนี้ คณะกรรมการฯ และคณะอนุกรรมการฯ จะเร่งขับเคลื่อนดำเนินการในขั้นตอนต่อไปเพื่อให้สามารถสรุปผลขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และนำสู่การแก้ไขกฎหมายและติดตามผลให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2559 โดยจะทำให้หน่วยงานของรัฐสามารถใช้แผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ 1:4000 ทั้งประเทศ เพื่อให้สามารถบริหารพื้นที่ของรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสของการทุจริต การบุกรุกหรือรุกล้ำพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศหมดสิ้นไป ตลอดจนลดข้อพิพาทระหว่างประชาชนและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวกับเรื่องที่ดินต่อไป
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดงานพร้อมมอบนโยบายในการดำเนินการฯ สรุปความว่า การที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ป่าของประเทศไทยคงเหลือเพียงร้อยละ 32 ของพื้นที่ป่าไม้ทั้งหมด เนื่องจากที่ผ่านมาได้ปล่อยให้มีการบุกรุกพื้นที่สาธารณะโดยไม่มีการดำเนินการอย่างเข้มงวดและจริงจัง
จากปัญหาดังกล่าว รัฐบาลจึงได้กำหนดนโยบายในเรื่องการรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนในระยะเร่งด่วน คือเร่งปกป้องและฟื้นฟูพื้นที่อนุรักษ์ ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า โดยให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐให้ชัดเจน เร่งรัดกระบวนการพิสูจน์สิทธิการถือครองที่ดินในเขตที่ดินของรัฐ โดยนำระบบสารสนเทศมาใช้เพื่อการบริหารจัดการ ปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัยและสร้างบรรทัดฐานในการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพและการบริหารจัดการจัดทำทะเบียนผู้ถือครองที่ดินในที่ดินของรัฐ ปรับปรุงกลไกการบริหารจัดการที่ดินของรัฐและเอกชนให้มีเอกภาพเพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบายด้านที่ดินในภาพรวม
ทั้งนี้ รัฐบาลวางเป้าหมายว่าภายในปี พ.ศ. 2559 จะต้องนำพื้นที่ป่าคืนให้กับประเทศและประชาชนได้คิดเป็นร้อยละ 40 ของประเทศทั้งหมด จึงมีความจำเป็นต้องมีการปรับปรุงให้ประเทศไทย มีแนวเขตที่ดินของรัฐที่ถูกต้อง ทันสมัย อยู่บนมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ คือ มาตราส่วน 1 : 4000 เพื่อให้แนวเขตที่ดิน
ไม่ว่าจะเป็นที่ดินของรัฐ หรือที่ดินของเอกชน ต่อกันได้สนิท ไม่ทับซ้อน หรือมีช่องว่าง สามารถนำไปกำหนดนโยบายในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างคุ้มค่า ลดความเหลื่อมล้ำ และคืนความชอบธรรมให้กับประชาชนอย่างแท้จริง
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำ เพิ่มเติมว่า ขอให้ทั้งภาครัฐ และภาคประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ได้มีส่วนช่วยกันธำรงรักษาทรัพยากรป่าไม้ให้คนไทยสามารถดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและยั่งยืน ขณะเดียวกัน ขออัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2521 ดังความตอนหนึ่งว่า “ธรรมชาติแวดล้อมของเรา ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดิน ป่าไม้ ทะเลและอากาศ มิได้เป็นเพียงสิ่งสวย ๆ งาม เท่านั้น หากแต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของเราและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของเราไว้ให้ดี นี้ก็เท่ากับเป็นการปกป้องรักษาอนาคตไว้ให้ลูกหลานของเราด้วย” ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนได้น้อมนำพระราชดำรัชดังกล่าวไปเป็นแนวทางในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจต่อไปด้วย
**************************
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงานการประชาสัมพันธ์
สุภิญญา รายงาน
ดวงใจ ตรวจ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th