เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี

ข่าวทั่วไป Friday January 22, 2016 15:02 —สำนักโฆษก

วันนี้ (22 มกราคม 2559) เวลา 10.30 น. นายลุตฟี ราอุฟ (Mr. Lutfi Rauf) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) เพื่ออำลาในโอกาส จะพ้นจากหน้าที่ ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

รองนายกรัฐมนตรี แสดงความขอบคุณเอกอัครราชทูตฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินโดนีเซียให้แน่นแฟ้นขึ้น โดยเฉพาะระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งด้านเอกอัครราชทูต กล่าว ขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีและประเทศไทย สำหรับความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างกัน โดยประเทศไทยได้ให้การส่งเสริมและสนับสนุนอย่างดีมาโดยตลอด

เอกอัครราชทูตฯ มีความยินดีที่จะถวายการรับเสด็จฯ แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีอย่างสมพระเกียรติ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีมีกำหนดเสด็จพระราชดำเนินเยือนอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 7 – 11 มีนาคม 2559 และมีกำหนดเสด็จพระราชดำเนินเยือน โรงเรียน SD Negeri 50 Kota Ternate ซึ่งกระทรวงการศึกษาและวัฒนธรรมอินโดนีเซียเสนอให้เป็นโรงเรียนภายใต้โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนตามพระราชดำริ

โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุระเบิดและกราดยิง ณ กรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2559 พร้อมชื่นชมการดำเนินการของรัฐบาลอินโดนีเซียที่สามารถทำให้สถานกาณ์กลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งด้านเอกอัครราชทูต กล่าวขอบคุณและรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยแก่ชาวอินโดนีเซีย หลังเกิดเหตุก่อการร้ายดังกล่าว นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีส่งสารแสดงความเสียใจถึงประธานาธิบดีอินโดนีเซียด้วย

ทั้งสองฝ่าย ยังหารือถึงประเด็นความร่วมมือระหว่างสองประเทศในมิติต่างๆ อาทิ การศึกษา ซึ่งเอกอัครราทูตฯ กล่าวชมโครงการพัฒนาตามสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงประเด็นความมั่นคง โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการป้องกันและต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งทั้งสองฝ่าย มีความเห็นว่าทุกฝ่ายจะต้องช่วยเพื่อกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว และที่ผ่านมาไทย-อินโดนีเซีย ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงบุคคลากร เพื่อรับมือและหยุดยั้งการก่อการร้าย

นอกจากนี้ เอกอัครราชทูต ยังกล่าวถึงการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อยกเว้นค่าอากรแสตมป์ และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยรองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ขอให้มั่นใจว่ากระบวนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ