พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้
การเดินทางเยือนไทยครั้งนี้ถือเป็นการเยือนครั้งแรกในฐานะปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร โดยเป็นส่วนหนึ่งของการเยือนภูมิภาคเอเชีย ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่จะเชื่อมโยง และยาวนานในอนาคต ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีหวังว่าการเยือนในครั้งนี้จะเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความคืบหน้าในการดำเนินงานของรัฐบาล ในการนำประเทศไปสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ในปี 2558 ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมมาก โดยเฉพาะความร่วมมือทวิภาคีที่มีพัฒนาการโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการค้า การลงทุน การศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
ทั้งสองฝ่ายยินดีที่สหราชอาณาจักรเสนอเป็นเจ้าภาพจัดการหารือเชิงยุทธศาสตร์ไทย-สหราชอาณาจักร ครั้งที่ 2 ที่กรุงลอนดอน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีในการกระชับความสัมพันธ์ในอีกระดับหนึ่งระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้ย้ำถึงสถานการณ์การเมืองว่า ไทยมุ่งมั่นและเดินหน้าไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่ยั่งยืนและมั่นคง ไทยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนในฐานะมิตรจากสหราชอาณาจักร และพร้อมรับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ แต่ทั้งนี้ไทยต้องการเวลาและโอกาสในการดำเนินการปฏิรูป และสร้างความปรองดอง
นอกจากนี้ ไทยและสหราชอาณาจักรเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในด้านการลงทุนที่สหราชอาณาจักรเป็นประเทศนักลงทุนอันดับต้นๆของไทย โดยในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวขอการสนับสนุนการลงทุนจากรัฐบาลและภาคเอกชนสหราชอาณาจักร อันจะช่วยส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ รวมทั้งขอให้ช่วยดูแลนักลงทุนไทยที่ไปลงทุนในสหราชอาณาจักรด้วย
ด้านการศึกษา ทั้งสองฝ่ายยินดีในข้อเสนอในการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและ บริติชเคานซิล ในการพัฒนามาตรฐานการสอนภาษาอังกฤษ การฝึกอบรมครู ส่วนความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไทยและสหราชอาณาจักรมีความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมภายใต้กรอบกองทุนนิวตัน อันทำให้เกิดความร่วมมือด้านการวิจัยร่วมเป็นจำนวนมากในสาขาที่สำคัญ โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศฯกล่าวว่า สหราชอาณาจักรมีความสนใจที่จะขยายการลงทุนในไทย ทั้งในการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ส่วนสถานการณ์การเมืองในไทย ปลัดกระทรวงการต่างประเทศฯกล่าวว่าเข้าใจถึงความท้าทายในการจัดการกับสถานการณ์ แต่ทั้งนี้ขอให้ไทยดำเนินการทุกอย่างบนพื้นฐานของหลักนิติธรรม และการมีอิสระในการแสดงความคิดเห็น
**************************
กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th