มาตรการกระทรวงการคลังสู่ปีทองแห่งการลงทุน 2559

ข่าวทั่วไป Wednesday December 30, 2015 14:18 —สำนักโฆษก

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง มั่นใจว่าการลงทุนภาคเอกชนจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2559 เพิ่มเติมจากการใช้จ่ายภาครัฐและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังเป็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศผ่านการดึงดูดอุตสาหกรรมใหม่ที่เป็นอนาคตของไทยและส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนของภูมิภาคโดยเฉพาะหลังจากการรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้ออกมาตรการเพื่อสนับสนุนการลงทุนภาคเอกชนออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. สิทธิประโยชน์เร่งรัดการลงทุนในปี 2559

1.1 การหักค่าเสื่อมราคาได้ 2 เท่า ในปี 2559 สำหรับการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนในทรัพย์สินใหม่ภายใน 31 ธันวาคม 2559 ได้แก่ เครื่องจักร ส่วนประกอบ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ยานพาหนะ และอาคารถาวร (ไม่รวมที่ดินและอาคารถาวรที่ใช้เพื่อการอยู่อาศัย)

1.2 มาตรการเร่งรัดโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ซึ่งเป็นการปรับปรุงกระบวนการขั้นตอนในการจัดเตรียมและพิจารณาโครงการ PPP จากเดิมที่ใช้เวลา 25 เดือน ให้เหลือ 9 เดือน

2. สิทธิประโยชน์สำหรับการลงทุนในอุตสาหกรรมอนาคตของไทย (New Growth Engine)

2.1 สิทธิประโยชน์สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย

  • ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 10-15 ปี
  • ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมาย
  • เงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการลงทุน การทำวิจัยพัฒนาและนวัตกรรม การพัฒนาบุคลากรเฉพาะด้าน และดอกเบี้ยเงินกู้ ผ่านกองทุน Competitiveness Enhancement Fund ขนาด 10,000 ล้านบาท

2.2 การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยยกเว้นภาษีสรรพสามิต อากรขาเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม และให้นำมูลค่ารถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบทั้งจำนวนมาหักค่าเสื่อมราคาได้ สำหรับการนำเข้ายานพาหนะต้นแบบเพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนา

2.3 การหักค่าใช้จ่ายจากการวิจัยและพัฒนาได้ 3 เท่า ในช่วงปี 2558-2562

2.4 Thailand Future Fund ซึ่งเป็นกลไกให้เอกชนได้ร่วมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ มูลค่าการระดมทุน 100,000 ล้านบาท

3. สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับการใช้ประเทศไทยเป็นฐานการลงทุนในอาเซียน

3.1 สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (IHQ) และบริษัทการค้าระหว่างประเทศ (ITC) อาทิ การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรายได้จากการให้บริการแก่วิสาหกิจในเครือ การลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือร้อยละ 10 สำหรับรายได้จากการให้บริการและค่าสิทธิที่ได้รับจากวิสาหกิจในเครือในไทย และการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเหลือร้อยละ 15

3.2 สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) อาทิ การลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือร้อยละ 10 สำหรับรายได้จากสินค้าและบริการที่เกิดขึ้นในพื้นที่พิเศษเป็นเวลา 10 ปี และการยกเว้นค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อผ่านบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม

ชุดมาตรการนี้ นอกจากจะเป็นแรงผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปี 2559 สามารถขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ผ่านการลงทุนภาคเอกชนที่จะมาเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เสริมเพิ่มขึ้นจากเครื่องยนต์การใช้จ่ายภาครัฐและการท่องเที่ยวที่เป็นกำลังหลักในปี 2558 และการบริโภคภาคเอกชนที่จะได้รับผลบวกจากความเชื่อมั่นที่ปรับดีขึ้นตามลำดับแล้ว การลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายและการดึงดูดการลงทุนโดยตรงที่มีคุณภาพจากต่างประเทศจะช่วยเพิ่มระดับการลงทุนของประเทศไทยที่ปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนรวมอยู่ที่เพียงร้อยละ 24 ต่อ GDP และอยู่ในระดับต่ำมาตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ให้ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับที่ทัดเทียมกับการลงทุนของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค และยิ่งไปกว่านั้นจะเป็นการยกระดับศักยภาพของเศรษฐกิจไทยในอนาคต

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3253

ที่มา : กระทรวงการคลัง

ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ