รัฐบาลสนับสนุนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ในระดับหมู่บ้านกว่า 3 ล้านครัวเรือนในวงเงินกว่า 6 หมื่นล้านบาท ภายในเดือนมีนาคม ศกนี้

ข่าวทั่วไป Friday February 19, 2016 15:42 —สำนักโฆษก

วันนี้ (19 ก.พ. 59) เวลา 10.45 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์การประชุมและสัมมนาอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ”โดยมีผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลเอกวิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) พร้อมด้วยสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ จากทั่วประเทศ กว่า 10,000 คน

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เยี่ยมชมนิทรรศการผลงานโครงการต่างๆ ของกองทุนหมู่บ้านฯ จากทั่วประเทศพร้อมทักทายสมาชิกฯ ด้วยอัธยาศัยอันดี

จากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานสรุปความว่ารัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของเศรษฐกิจฐานรากเพราะเป็นพื้นฐานสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศมีความก้าวหน้าและมีศักยภาพในการแข่งขัน จึงมีมาตรการสนับสนุนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับหมู่บ้านในวงเงินสินเชื่อ 60,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลช่วยเหลือในเรื่องดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 2 ปี ทำให้โครงการดังกล่าวมีกองทุนหมู่บ้านรวม 50,050 กองทุน และมีสมาชิกได้รับประโยชน์จากโครงการกว่า 3 ล้านครัวเรือน พร้อมทั้งมีการขยายตลาดประชารัฐเพื่อรองรับผลผลิตที่ได้จากโครงการอย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า จากการดำเนินงานของโครงการมีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดี ประชาชนได้รับประโยชน์ในการพัฒนาในเรื่องการผลิต การแปรรูป การดำเนินชีวิตที่มีคุณภาพรัฐบาลจึงสนับสนุนให้กองทุนหมู่บ้านเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มีความทั่วถึงเพิ่มมากขึ้น โดยเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2559 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบหลักการโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ และได้อนุมัติหลักการงบประมาณในการดำเนินโครงการในกรอบวงเงิน 35,000 ล้านบาท เพื่อเป็น การยกระดับและเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงสนับสนุนเงินทุนให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จำนวน 79,566 กองทุน วงเงินไม่เกินกองทุนละ 500,000 บาท เพื่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในหมู่บ้าน/ชุมชน และเพื่อดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ที่หมู่บ้าน/ชุมชนเห็นว่าเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมศักยภาพในการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ในหมู่บ้าน/ชุมชนให้ดีขึ้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวมีความจำเป็นต้องอาศัยกลไกในการดำเนินงาน โดยยึดหลักการของประชารัฐที่มีส่วนร่วมทั้งจากภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาครัฐ ในการมุ่งเน้นพัฒนาภาคการผลิต การแปรรูป และการตลาดอย่างครบวงจร ให้มีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและการบริหารจัดการพื้นที่การผลิตให้เหมาะสม โดยต้องผ่านการกลั่นกรองอย่างครบถ้วน เพื่อไม่ให้มีความซ้ำซ้อนกับโครงการภายใต้นโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล และโครงการอื่นๆ ที่มีลักษณะการดำเนินงานเดียวกัน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ลดงบประมาณส่วนเกินที่ไม่มีความจำเป็น พร้อมกับมีระบบการติดตามและการประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ ตลอดจนการจัดสรรด้านพื้นที่และกิจกรรมต่างๆ ที่มีความสอดคล้องกันให้เกิดความเชื่อมโยงในการบูรณาการการทำงานที่มีศักยภาพมากขึ้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า การสนับสนุนการดำเนินงานโครงการให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จึงจะต้องร่วมกันทำงานอย่างจริงจัง สร้างเอกภาพและมาตรฐานเดียวกัน โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการมีส่วนร่วมของอาสาประชารัฐซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนที่มีศักยภาพ เพราะเกิดจากความต้องการและเจตนารมณ์ที่อยากจะพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชน และสังคมให้มีมาตรฐานความก้าวหน้าในด้านของคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความเชื่อมั่นว่า การที่จะพัฒนาประเทศไปสู่ความเจริญได้นั้น ที่สำคัญอยู่ที่พี่น้องประชาชนเป็นลำดับแรกให้ มีความอยู่ดีกินดี มีความสุข มีรายได้ มีศักยภาพในการพัฒนาตนเอง และสามารถบริหารจัดการเงินได้ ก็จะสามารถทำให้หมู่บ้าน ชุมชน และสังคมสามารถพึ่งตนเองและมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนต่อไป

นายกรัฐมนตรีกล่าวในตอนท้ายอีกว่า ปัจจัยในการสร้างความสำเร็จของมาตรการการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากในหมู่บ้านและชุมชน จะต้องเกิดจากการร่วมมือของทุกภาคส่วน ในการดำเนินการพัฒนาประเทศของเรา ให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและเกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยความสามัคคี ความปรองดอง ซึ่งจะนำไปสู่การช่วยกันพัฒนา ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านการเมืองการปกครอง และอื่นๆ ให้มีความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทยทุกคน

หลังจากที่นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานฯ จบแล้ว นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้ประกอบพิธีเปิดโครงการฯ อย่างเป็นทางการ โดยมีสมาชิกกองทุนฯ กว่า 10,000 คน แสดงความยินดีโดยพร้อมเพรียงกัน

***********************************

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

อภิวัฒน์ / รายงาน

ดวงใจ / ตรวจ

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ