วันนี้ (20ก.พ.59) พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่กำหนดไว้ในร่างรัฐธรรมนูญว่า ยุทธศาสตร์นี้มีไว้เพื่อเป็นกรอบการพัฒนาประเทศร่วมกันของรัฐบาล ภาคเอกชน และประชาชน ในแต่ละช่วงเวลา ให้สามารถขับเคลื่อนบ้านเมืองไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำเหมือนที่ผ่านมา
"ยุทธศาสตร์ชาติเป็นเพียงกรอบกว้างๆ ที่จะทำให้ทุกคนในประเทศรู้ว่าจะเดินไปอย่างไร ไม่ใช่การบังคับว่าต้องทำอะไร เช่น ทำให้รู้ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าเป้าหมายคืออะไร ต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรทั้งการพัฒนาทักษะความรู้ เงินทุน ฯลฯ เพื่อให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่วนแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ แต่ละฉบับที่มีระยะเวลา 5 ปี หรือนโยบายรัฐบาลที่จะถูกกำหนดขึ้นในอนาคต จะเป็นแผนปฏิบัติการในรายละเอียด ซึ่งแต่ละรัฐบาลจะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และยัง ใช้เป็นตัวชี้วัดเพื่อประเมินผลงานด้วยว่า เป็นไปตามกรอบแนวทางระดับชาติหรือไม่
พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีอธิบายว่า ประเทศที่พัฒนาแล้วหรือแม้แต่บางประเทศในอาเซียนก็มียุทธศาสตร์ชาติ มีแผนปฏิรูป เป็นหลักนำไปใช้แก้ไขปัญหาเดิมๆ และวางแผนลดความเสี่ยงสำหรับอนาคต หากไม่เตรียมไว้ก็จะเกิดปัญหาอย่างไม่รู้จบ เพราะการพัฒนาที่ไม่เป็นระบบ ส่วนจะทำมากหรือน้อยก็เป็นเรื่องที่ทั้ง 2 สภา คือ ส.ส.และ ส.ว.ในอนาคต ต้องไปพิจารณาร่วมกันเพื่อปรับปรุงแก้ไข
"ท่านนายกฯ เห็นว่า นักการเมืองที่มุ่งมั่นทำเพื่อบ้านเมืองจริงๆ คงไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นอุปสรรค พร้อมทั้งขอให้ประชาชนที่ต้องการเห็นประเทศชาติมีความเข้มแข็ง ทุกคนมีความสุข ได้เข้าใจตามเจตนารมณ์นี้ และร่วมมือกันกำหนดอนาคตของชาติบ้านเมือง แสวงหารัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล เพื่อสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนในประเทศ และประเทศไทยกับประชาคมโลก โดยคาดว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้นภายใน 5 ปีนี้
ที่สำคัญอย่าหลงเชื่อผู้ที่พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงเหล่านี้ ด้วยการอ้างประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพ โดยไม่สนใจความถูกต้อง หรือความหมายที่แท้จริงของประชาธิปไตย แต่กลับสร้างความแตกต่าง แบ่งแยกประชาชนมาโดยตลอด"
---------------------
สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th