“แม้ปริมาณน้ำทุกเขื่อนจะเพียงพอที่จะจัดสรรไปหล่อเลี้ยงคนทั้งประเทศตลอดฤดูแล้ง แต่ต้องยอมรับว่าบางพื้นที่เกิดภาวะแล้งจริง ซึ่งรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัย 46 อำเภอ 12 จังหวัด เพื่อให้ ผวจ.สามารถอนุมัติงบประมาณไปใช้ในระดับอำเภอและท้องถิ่น และขอรับการสนับสนุนรถบรรทุกน้ำหรือเครื่องสูบน้ำได้ ส่วนภาคการเกษตร ครม.ได้อนุมัติมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผ่าน ธ.ก.ส. รวมกว่า 9.3 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะมีผู้ได้รับประโยชน์กว่า 670,000 ราย”
พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า รัฐบาลยังเตรียมเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน ซึ่งเป็น 1 ใน 8 มาตรการรับมือวิกฤตภัยแล้ง โดยจะปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 มี.ค.นี้ ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ กาญจนบุรี อุดรธานี นครราชสีมา จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี และจะดำเนินการขุดบ่อบาดาลเพิ่มอีก 2,000 บ่อ ภายในเดือน เม.ย.ในพื้นที่ประสบภัยแล้งระยะเร่งด่วนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจะมีประชาชนได้รับประโยชน์ 225,733 ครัวเรือน
“ท่านนายกฯ เป็นห่วงเรื่องปัญหาภัยแล้งมาก และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด โดยขอให้ทุกฝ่ายใช้น้ำอย่างประหยัดและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่โดยเคร่งครัด ควบคู่ไปกับมาตรการควบคุมการจ่ายน้ำของการประปา ทั้งนี้ รัฐบาลเตรียมรณรงค์ให้คนไทยประหยัดน้ำอย่างจริงจัง และเชิญชวนประชาชนใช้การรดน้ำดำหัวแทนการเล่นสาดน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำและสืบสานวัฒนธรรมที่งดงาม นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นหน่วยงานหลัก สร้างความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดเรื่องปริมาณน้ำในโรงแรมที่พัก หรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งอาจจะกระทบต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย”
ที่มา: http://www.thaigov.go.th