รองนายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีที่ได้พบ โดยในด้านความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศนั้นมีพลวัตอย่างต่อเนื่องในหลายมิติ และในปีนี้ ไทยและฝรั่งเศสได้ดำเนินความสัมพันธ์ครบรอบ 160 ปี ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า ความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยและฝรั่งเศสยังมีศักยภาพในหลายด้าน เช่น การศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน วิจัยและนวัตกรรม การบิน เป็นต้น โดยรองนากยรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณฝรั่งเศสที่เชื่อมั่น และแสดงความสนใจที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการต่างๆ ของไทย
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า ไทยมีความมุ่งมั่นต่อนโยบายการค้าเสรี (FTA) ซึ่งขณะนี้ให้ความสำคัญกับการเจรจาจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีในกรอบทวิภาคี โดยทราบว่าเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยได้ร่วมผลักดันเพื่อให้คณะกรรมการธิการยุโรปทบทวนและเปิดการเจราเขตเสรีทางการค้าไทย-สหภาพยุโรป (Thai-EU FTA) ในระดับเทคนิค ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณสำหรับการสนับสนุน และหวังว่าการเจรจาระดับเทคนิคจะได้เริ่มในโอกาสแรกเพื่อประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงภูมิภาคอาเซียนว่า ปัจจุบันได้รวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจ (AEC) และเป็นความร่วมมือหนึ่งที่สำคัญ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางในการผลิตอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ สิ่งทอ อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ประกอบกับปัจจุบันยังมีความร่วมมือในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเชื่อมต่อทางคมนาคม รวมทั้งเศรษฐกิจ จึงเชิญชวนให้ฝรั่งเศสเข้าร่วมลงทุนในกิจการต่างๆ เพื่อร่วมกันเสริมสร้างความเข้มแข็งในภูมิภาค ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายในอนาคตต่อไป ซึ่งทางฝรั่งเศสได้แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วม
ที่มา: http://www.thaigov.go.th