“รัฐบาลให้การส่งเสริมกองทุนยุติธรรมในความดูแลของกระทรวงยุติธรรม เพื่อช่วยเหลือประชาชนในกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง เช่น ให้ความรู้ทางกฎหมาย ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี หรือขอประกันตัวเพื่อสู้คดี ตลอดจนเยียวยาผู้ถูกละเมิดหรือได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นต้น”
พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ในปี 59 รัฐบาลจะทบทวนปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม สอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบมากขึ้น รวมทั้งขยายเครือข่ายพันธมิตรเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเจตนารมณ์ของกองทุนฯ พร้อมกับวางระบบสารสนเทศให้รองรับการทำงานระดับจังหวัด กระจายอำนาจให้กองทุนทั้ง 76 จังหวัดมีความเท่าเทียมกัน เนื่องจากที่ผ่านมาบางจังหวัดมีอำนาจอนุมัติวงเงินไม่เท่ากัน รวมทั้งพัฒนาบุคลากรให้เป็นมืออาชีพ สามารถช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากที่สุด
“ท่านนายกฯ ให้ความสำคัญกับการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเท่าเทียมในสังคมทุกมิติ โดยเฉพาะการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ที่ทุกคนสามารถต่อสู้เพื่อเรียกร้องหรือปกป้องสิทธิ์ของตนเองได้อย่างเป็นธรรม เพื่อลบวาทกรรม คุกมีไว้ขังคนจน ให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย โดยได้กำชับให้ ยธ. เร่งพัฒนากลไกการกระจายอำนาจของกองทุนยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกันทุกจังหวัด ตลอดจนประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข่าวสารบทบาทหน้าที่ของกองทุนฯ และช่องทางการขอรับความช่วยเหลือ ให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง”
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ในการสนับสนุนเงินช่วยเหลือ เช่น ผู้ขอรับเงินต้องเป็นบุคคลธรรมดา มีฐานะยากจน มีความประพฤติดี ไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนี และการให้ความช่วยเหลือจากกองทุนฯ ต้องไม่ซ้ำซ้อนกับการช่วยเหลือตามกฎหมายอื่น เป็นต้น
---------------------
สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th