รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเดินหน้าปฏิรูปในทุกมิติและเดินหน้าตามแผนการปฏิบัติการ (Roadmap) ที่ได้กำหนดไว้เพื่อให้ประเทศสามารถกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐบาลให้ความสำคัญในการเปิดโอกาสให้ ภาคประชาสังคมและประชาชน ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันที่ทำให้ประเทศไทยเดินหน้าไปสู่ความเป็นสากล ทั้งในบริบทของกฎ กติกา เอกลักษณ์ ค่านิยมความเป็นไทย และบทบาทที่จะได้รับการยอมรับในเวทีโลก ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังเน้นย้ำใน 3 ประเด็น คือ ประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน ซึ่งจะต้องปลูกฝังให้ประชาชนในประเทศตระหนักถึงความสำคัญควบคู่กันไป เพื่อที่จะทำให้สังคมไทยอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข และมีความเสมอภาค
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้เผยว่า รัฐบาลรับทราบข้อห่วงใย ตามที่องค์กร Amnesty International (AI) ได้จัดทำและเผยแพร่รายงานด้านสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทั่วโลก (The State of the World’s Human Rights) เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมานั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดารายงานจากสถาบันสากลในด้านสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงบริบทที่ท้าทายประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องรักษาความสงบสุข และความสมดุลระหว่างสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก หรือการชุมนุมกับความจำเป็นที่จะต้องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์หรือการสร้างสถานการณ์ใดๆ ที่อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคม เพราะขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงของการปฏิรูปเพื่อนำสู่ความสามัคคีภายในชาติ และประชาธิปไตยที่มั่นคงและยั่งยืน
พลตรีวีรชนฯ กล่าวในตอนท้าย รัฐบาลมองว่าองค์กร Amnesty International (AI) เป็นองค์กรที่ช่วยสร้างความเข้าใจในการทำงานของรัฐบาลมากยิ่งขึ้น และเปิดโอกาสให้รัฐบาลได้อธิบายสิ่งที่กำลังดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับประเทศไทยในสายตาของต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ยังเป็นองค์กรสำคัญที่ช่วยสะท้อนภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อสร้างการรับรู้ถึงความพยายามและพัฒนาการที่ก้าวหน้าของไทย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th