"รัฐบาลได้รับหนังสือชื่นชมจากกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ UNICEF ที่ได้ดำเนินโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และยังได้รับการกล่าวถึงในที่ประชุมรัฐสภาของประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อบรรจุแนวทางการดำเนินงานของประเทศไทยเป็นต้นแบบด้วย”
พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า จังหวัดที่มีการลงทะเบียนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จ.ปัตตานี บุรีรัมย์ นครศรีธรรมราช ศรีสะเกษ และนครราชสีมา โดยผู้ลงทะเบียนส่วนใหญ่เป็นคุณแม่วัยใส คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว คุณแม่ว่างงาน และคุณแม่ที่ประสบปัญหาที่อยู่อาศัย ครอบคลุมทั้งผู้ว่างงาน เกษตรกร ผู้รับจ้าง ค้าขาย กำลังศึกษา และไม่มีอาชีพ ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอีกทางหนึ่ง
“ท่านนายกฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กช่วงปฐมวัย เพราะเป็นช่วงเวลาที่เด็กจะมีพัฒนาการทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยพอใจการทำงานของ พม. และกำชับให้เร่งประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ประชาชนทราบ เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์ไปจนถึง 30 ก.ย.59 ณ สำนักงานเขต สำนักงานเทศบาล อบต. กรมกิจการเด็กฯ และสำนักงาน พม.ในแต่ละจังหวัด อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานในปีนี้ เป็นระยะที่ 1ของโครงการฯ โดยหลังจากนี้ รัฐบาลมีแผนขยายการให้ความช่วยเหลือของโครงการนี้ให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด”
ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายของโครงการ ได้แก่ เด็กที่เกิดระหว่าง 1 ต.ค.58 – 30 ก.ย.59 พ่อแม่หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสัญชาติไทย และอยู่ในครัวเรือนยากจน โดยจะได้รับเงินอุดหนุน 400 บาทต่อเดือน มีการเยี่ยมเยียนครอบครัว ปรับสภาพที่อยู่อาศัย ให้การศึกษาและอาชีพ อบรมการดูแลตนเองและเด็ก และบริการส่ง SMS เกี่ยวกับการดูแลเด็กตามช่วงวัย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th