โฆษกรัฐบาลเผย พ.ร.บ. ธุรกิจรักษาความปลอดภัย ปี 58 มุ่งยกระดับมาตรฐานผู้ประกอบธุรกิจและ พนง.รปภ. เสริมสร้างเกียรติและศักดิ์ศรีให้เป็นที่ยอมรับ ควบคู่ความปลอดภัยของประชาชน ชี้ไม่มีเจตนาสร้างความลำบาก วอนผู้เกี่ยวข้องเข้าใจ

ข่าวทั่วไป Monday March 14, 2016 14:51 —สำนักโฆษก

พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่กลุ่มสหพันธ์ธุรกิจรักษาความปลอดภัย ยื่นเรื่องต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้ชะลอการบังคับใช้ พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 ซึ่งมีผลตามกฎหมายเมื่อ 5 มี.ค. 59 ที่ผ่านมา ว่า เหตุผลที่ประกาศใช้กฎหมายนี้ เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจ รปภ.จำนวนมาก แต่มีมาตรฐานที่ต่างกัน และธุรกิจให้บริการ รปภ.มีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน ทั้งในด้านความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน รวมทั้งส่งผลต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรฐานของบริษัท และเสริมสร้างศักยภาพของพนักงาน รปภ.ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้บริการและสังคมโดยรวม โดยที่ไม่รวม รปภ.ขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก

"กฎหมายนี้คำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ไม่มีเจตนาสร้างความลำบากแก่ผู้ประกอบการหรือพนักงาน รปภ. แต่อยากขอความร่วมมือจากบริษัทต่าง ๆ ในฐานะที่เป็นองค์กรธุรกิจ มีรายได้ เพิ่มการลงทุนอีกจำนวนหนึ่งเพื่อประโยชน์ในระยะยาว โดยจดทะเบียนเป็นบริษัทให้ถูกต้อง ยื่นขอรับใบอนุญาต และปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย พร้อมทั้งให้ความร่วมมือกับ จนท.ตำรวจในท้องที่นั้น ๆ

ส่วนผู้ที่จะเป็นพนักงาน รปภ. ได้ จะต้องมีสัญชาติไทย จบ ม.3 ซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดไว้อยู่แล้ว เพื่อให้เป็นผู้ที่มีความรู้ในระดับที่เหมาะสม รู้เท่าทันเหตุการณ์ จะได้ปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งต้องได้รับใบอนุญาต และมีหนังสือรับรองการฝึกอบรมหลักสูตร รปภ.ตามกฎหมาย โดยยื่นเรื่องที่ บช.น.หรือ บภ.จว. และไม่มีลักษณะต้องห้าม เช่น ไม่เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง หรือติดยาเสพติด ไม่วิกลจริต ไม่เคยถูกจำคุกในคดีร้ายแรง เป็นต้น"

พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้พนักงาน รปภ.อยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนมากกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะประจำอยู่ทั้งในสถานที่ทำงานและที่พักอาศัย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องกำหนดกฎเกณฑ์มาตรฐานของทั้งบริษัทต้นสังกัดและตัวพนักงาน เพื่อให้เกิดความสบายใจแก่ผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ตาม ในระยะแรกผู้ประกอบธุรกิจและพนักงานอาจมีความยุ่งยากบ้าง เพราะจะต้องจดทะเบียนบริษัท ยื่นขอรับใบอนุญาต หรือเข้ารับการฝึกอบรม แต่ขอให้คำนึงถึงประโยชน์ในระยะต่อไปด้วย

ทั้งนี้ กฎหมายได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่เป็นพนักงาน รปภ.ก่อนวันที่ 5 มี.ค. และต้องการปฏิบัติหน้าที่ต่อ สามารถยื่นขอรับใบอนุญาตได้ภายใน 90 วัน รวมทั้งยังได้รับยกเว้นไม่ต้องผ่านการฝึกอบรมเป็นเวลา 3 ปี แต่จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการฝึกอบรมจาก สตช.หากต้องการเป็น พนักงาน รปภ.ต่อไป

"ท่านนายกฯ ห่วงใยพี่น้องพนักงาน รปภ.และผู้ประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัย ไม่อยากให้เข้าใจผิดในเจตนารมณ์ของรัฐบาล เพียงแต่ต้องการยกระดับมาตรฐานการประกอบธุรกิจให้เป็นที่ยอมรับ และส่งเสริมให้อาชีพพนักงาน รปภ.มีเกียรติและศักดิ์ศรี เป็นที่พึ่งของประชาชน โดยคาดหวังให้เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจ ในการป้องกันอาชญากรรมได้อีกทางหนึ่ง”

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ