ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน การสัมมนาประเมินระดับการพัฒนาของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด พร้อมให้ข้อแนะนำกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการปฏิบัติงานในพื้นที่ตามยุทธศาสตร์ 6 ด้านของรัฐบาล

ข่าวทั่วไป Monday January 11, 2016 15:19 —สำนักโฆษก

วันนี้ (11 ม.ค.59) เวลา 13.00 น. ณ ห้องจูปิเตอร์ ชั้น 3 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่นกรุงเทพมหานคร นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการสัมมนาเพื่อรายงานสรุปผลการประเมินระดับการพัฒนาของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจัดขึ้นเพื่อทบทวนการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพื้นที่ตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐบาลให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมฯ ประกอบด้วย อธิบดีทุกกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัดทุกจังหวัด ทั้งนี้ ได้มีการถ่ายทอดสดการประชุมฯ ผ่านระบบ Video conference ไปยังทุกจังหวัดด้วย

โอกาสนี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ให้ข้อแนะนำวิธีบริหารงานในพื้นที่ตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาลให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนี้

1. เรื่องระบบการทำงานของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีภารกิจสำคัญ 3 ภารกิจ คือ 1) งานตามนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (Agenda) 2) งานตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยรวมทั้งงานในฐานะหัวหน้าส่วนราชการภูมิภาคที่ต้องกำกับดูแลหน่วยงานส่วนภูมิภาคในจังหวัด (Function)

3) งานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในระดับพื้นที่ (Area)โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรและคนยากจนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ภายใต้มาตรการต่าง ๆ ซึ่งสิ่งสำคัญ คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ จะต้องทราบและ เข้าใจยุทธศาสตร์ของรัฐบาลทั้ง 6 ด้าน และสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับศักยภาพของแต่ละพื้นที่ และถ่ายทอดภารกิจลงไปสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม

2. วิธีการนำยุทธศาสตร์ของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ หากจังหวัดมีงบประมาณไม่เพียงพอ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้นำกลไก "ประชารัฐ " มาใช้ในการบริหารจัดการ เพื่อลดภาระของทางราชการ สร้างการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน และภาคประชาชน

3. การรวมกลุ่ม "ประชารัฐ" สามารถทำได้ทั้ง 3 แบบ คือ แบบทางการ กึ่งทางการ และไม่เป็นทางการ เพื่อให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด ขอให้เร่งสร้างการรับรู้ สร้างการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน - ประชาชนให้เข้ามาร่วมสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ และให้ใช้ความเป็นผู้นำของผู้ว่าราชการจังหวัดในการตัดสินใจเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนด้วยความรวดเร็ว

ทั้งนี้ ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด บูรณาการการแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามสภาพปัญหาแต่ละเรื่อง โดยพิจารณาว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานใด เพื่ออำนวยการ สั่งการแก้ไขปัญหาให้ได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์

สำหรับการเผชิญและแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนมีเรื่องสำคัญที่ได้มอบแนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่ ดังนี้

1. การบริหารจัดการน้ำเพื่อรองรับปัญหาภัยแล้ง ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องทราบข้อมูลแหล่งน้ำและปริมาณน้ำในพื้นที่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้บูรณาการการแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุมทุกหน่วยงาน

2. การกำจัดผักตบชวา ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพหลักในการกำจัดผักตบชวาอย่างเป็นระบบ จึงขอให้จังหวัดเร่งรัดดำเนินการให้เต็มที่ โดยบูรณาการการปฏิบัติ ร่วมกับฝ่ายทหารในพื้นที่ และให้นำแนวทางการกำจัดผักตบชวาของจังหวัดนครนายก มาใช้ประกอบการดำเนินงาน

3. การเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในช่วงเดือนมกราคม - เมษายน ในพื้นที่ 65 จังหวัด โดยเฉพาะ 9 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือให้นำกลไก "ประชารัฐ" มาใช้ในการแก้ไขปัญหา และสร้างความตระหนักถึงปัญหาให้กับประชาชน

สุดท้ายปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำเรื่องการขยายผลโครงการพระราชดำริในพื้นที่ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้มีการปรับปรุงโครงสร้างการขับเคลื่อนงานโครงการพระราชดำริทั้งในส่วนกลางและระดับจังหวัด จึงขอเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นกลไกหลักในการบูรณาการ ทุกภาคส่วนในพื้นที่ กำกับดูแลการขับเคลื่อนงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้เกิดผลสัมฤทธิ์และเป็นรูปธรรม โดยน้อมนำและประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาจังหวัด กลุ่มจังหวัดให้เป็นไปอย่างสมดุลและเกิดความยั่งยืน.

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ