ออมสิน ช่วยลูกค้าเอสเอ็มอีต่อเนื่อง สนองนโยบายรัฐบาล จับมือตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดตั้งกองทุน SMEs Private Equity Trust Fund

ข่าวทั่วไป Thursday January 14, 2016 15:24 —สำนักโฆษก

ธนาคารออมสิน เดินหน้าตามนโยบายรัฐบาล ช่วยเหลือและดูแลธุรกิจ SMEs อย่างต่อเนื่อง จัดตั้งกองทุนร่วมลงทุน SMEs Private Equity Trust Fund วงเงินรวม ไม่เกิน ๒,๐๐๐ ล้านบาท โดยนำร่องกองแรกร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วงเงิน ๕๐๐ ล้านบาท เน้นลงทุน ๔ กลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงศักยภาพสูง

วันนี้ (๑๔ มกราคม ๒๕๕๙) ณ ห้องกำแพงเพชร ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ในเชิงบูรณาการ” ระหว่าง ธนาคารออมสิน กับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดตั้งกองทุนร่วมลงทุน SMEs Private Equity Trust Fund กองที่ ๑ วงเงิน ๕๐๐ ล้านบาท

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลโดยดำริของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล โดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายธนาคารออมสิน ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพิ่มเติมมากขึ้นให้สามารถมีแหล่งทุน ที่ดูแลกิจการและหมุนเวียนได้อย่างราบรื่น เป็นไปอย่างแข็งแกร่ง มั่นคง และยั่งยืน ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ นอกเหนือจากการให้วงเงินกู้ภายใต้ “โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs” แล้ว ล่าสุดนี้ ธนาคารออมสิน ได้ดำเนินมาตรการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในเชิงบูรณาการ ด้วยการจัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ “SMEs Private Equity Trust Fund” วงเงินรวมไม่เกิน ๒,๐๐๐ ล้านบาท

ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีกลุ่มเป้าหมาย ๔ กลุ่ม คือ ๑.SMEs ระยะเริ่มต้น (Start – up Stage) ที่มีศักยภาพสูง ๒.SMEs ที่มีศักยภาพในการเติบโต โดยเฉพาะที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่มีประโยชน์ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ๓.SMEs ที่เป็น Supplier ธุรกิจภาครัฐและภาคเอกชนขนาดใหญ่ หรือเป็นสมาชิกของสภาหอการค้าไทย หรือหน่วยงานภาครัฐ และ ๔.SMEs ที่เป็นกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) ซึ่งกำหนดนโยบายการลงทุนใน SMEs ระยะเริ่มต้น (Start – up Stage) ที่มีศักยภาพสูงไม่เกินรายละ ๑๐ ล้านบาท ส่วน SMEs ขนาดย่อม ขนาดกลาง วงเงินลงทุนรายละไม่เกิน ๕๐ ล้านบาท

สำหรับระยะเริ่มต้นของโครงการนี้ ธนาคารออมสินได้จัดตั้งกองทุนที่ ๑ วงเงิน ๕๐๐ ล้านบาท โดยมีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสถาบันหลักอีกแห่งหนึ่งในการพัฒนาประเทศเข้าร่วมลงทุนในวงเงิน ๑๐๐ ล้านบาท พร้อมทั้งมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ในเชิงบูรณาการ และธนาคารฯ มีแผนที่จะร่วมลงทุนกับนักลงทุนและสถาบันอื่นๆ เพื่อจัดตั้งกองทุนจนครบตามเป้าหมาย ๒,๐๐๐ ล้านบาท ต่อไป

“รัฐบาล เล็งเห็นว่าควรต้องช่วยเหลือหากทุกฝ่ายช่วยกันโอบอุ้มภาคเอสเอ็มอีก็จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศได้รับผลดีตามไปด้วย ครั้งนี้เป็นอีกมิติด้านการลงทุนที่ได้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มาร่วมผลักดัน ขณะที่ธนาคารออมสินซึ่งมีเครือข่ายสาขากว่า ๑,๐๐๐ แห่ง เป็นศักยภาพที่จะเข้าถึงผู้ประกอบการได้มาก นอกเหนือจากการให้สินเชื่อปกติของธนาคารฯ เพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงการจัดโครงการอีกมากมายเพื่อกระตุ้นการพัฒนาในภาคธุรกิจนี้ อาทิ โครงการสุดยอดแนวคิดธุรกิจวิถีไทย ฯลฯ” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าว

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญและพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการสร้างความแข็งแกร่งให้กับ SMEs ธุรกิจ Start-up และกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) สอดคล้องกับแผนงานสำคัญของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการเตรียมความพร้อมและส่งเสริมให้ธุรกิจดังกล่าวได้ใช้ประโยชน์จากตลาดทุนเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ โดยที่ผ่านมามีธุรกิจกลางและขนาดย่อมเข้ามาจดทะเบียนและระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai แล้ว 147 บริษัท คิดเป็นมูลค่าการระดมทุนประมาณ 77,000 ล้านบาท ซึ่งความร่วมมือกับธนาคารออมสินในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศไทยผ่านผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งมีจำนวนมากและมีความสำคัญ ต่อระบบเศรษฐกิจไทย

ที่มา : กระทรวงการคลัง

ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ