วันนี้ (16 มีนาคม 2559) เวลา 11.00 น. นายภควันต สิงห พิศโนอี (Mr. Bhagwant Singh Bishnoi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวยินดีที่ได้พบและยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทยในการประจำการเป็นครั้งที่สอง และยินดีที่การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของรองประธานาธิบดีอินเดียมีส่วนช่วยในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินเดียให้แน่นแฟ้น
เอกอัครราชทูตอินเดียกล่าวแสดงความยินดีที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ เยือนอินเดีย ระหว่างวันที่ 20-25 พ.ย. 2559 และพร้อมที่จะถวายการต้อนรับดังเช่นที่เคยปฏิบัติ และกล่าวว่า ไทย-อินเดีย มีการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ในระดับสูงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันที่จะร่วมมือกับอินเดียเพื่อให้ผลการเยือนมีผลอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับผู้นำและผู้แทนระดับสูง เพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคย และส่งเสริมความร่วมมืออย่างรอบด้าน
สำหรับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายหารือถึงความตกลงเขตการค้าเสรีไทยและอินเดีย ซึ่งได้เริ่มการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีฯ มาตั้งปี 2547 ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หากทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีฯได้ ก็จะมีส่วนช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้รับผิดชอบและเร่งดำเนินการในการหารือเพื่อให้เกิดความก้าวหน้าต่อไป
ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงความเชื่อมโยงในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งไทยและเมียนมามีความตั้งใจที่จะร่วมกันพัฒนาและสนับสนุนโครงการดังกล่าว หากแล้วเสร็จก็จะช่วยเชื่อมโยงชายฝั่งด้านตะวันออกของอินเดียกับภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ยินดีที่ทราบว่าภาคเอกชนอินเดียให้ความสนใจที่จะเข้าไปร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ไทยยังมุ่งมั่นที่จะร่วมผลักดันการก่อสร้างถนนสามฝ่ายไทย-เมียนมา-อินเดีย ให้แล้วเสร็จ เพื่อยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว รองนายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูต ยินดีที่จำนวนนักท่องเที่ยวของทั้งสองฝ่ายที่เพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2558 มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยถึง 1 ล้านคน ในขณะที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปอินเดีย 1 แสนคน ขณะเดียวกัน ชาวไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวที่อินเดียเช่นกัน เนื่องจากอินเดียเป็นแหล่งกำเนิดของพระพุทธศาสนา โดยชาวไทยนิยมเดินทางไปสักการะสังเวชนียสถาน ทั้งนี้ ฝ่ายไทยพร้อมที่จะเชิญชวนให้ชาวไทยเดินทางไปท่องเที่ยวในอินเดียเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือ ถึงความร่วมมือทางด้านการศึกษา ซึ่งเอกอัครราชทูตอินเดียกล่าวว่า ไทยและอินเดียมีความร่วมมือในด้านนี้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในสถานบันอุดมศึกษาชั้นนำของไทย อาทิ จุฬาลงกรณ์มาหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างคนไทยและอินเดีย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในระดับประชาชนต่อไป
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวชมความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดจนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และสนใจที่จะศึกษาเรียนรู้ในด้านดังกล่าว ด้านเอกอัครราชทูตอินเดีย กล่าวว่า ยินดีที่ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างกันในด้านนี้ระหว่างทั้งสองประเทศ
ในตอนท้าย รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในปีหน้าจะครบรอบ 70 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-อินเดีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะหารือเพื่อจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ดังกล่าว อีกทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า ไทยพร้อมที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ในทุกมิติและทุกระดับกับอินเดียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th