รัฐบาลปลื้ม งานซื้อขายยางพาราและผลิตภัณฑ์ทะลุเป้า จับคู่ธุรกิจ 2 ครั้ง เฉียด 55,000 ลบ. ระบายยางในประเทศได้กว่า 7.85 แสนตัน พร้อมเร่งรัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องรายงานผลการใช้ยางเข้า ครม. เตรียมประเมินผล วางแผนจัดการยางทั้งระบบอย่างยั่งยืน

ข่าวทั่วไป Saturday March 19, 2016 12:00 —สำนักโฆษก

วันนี้ (19 มี.ค.59) พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำก่อนหน้านี้ และนายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาหาแนวทางกระตุ้นราคายางพาราในประเทศให้สูงขึ้น โดยโครงการจับคู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ยาง เป็นหนึ่งในหลายแนวทางที่รัฐบาลได้ดำเนินการ เพื่อส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางและยางพาราธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยหันมาแปรรูปยางพาราให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น สร้างรายได้ให้กับประเทศ และช่วยเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศอีกทางหนึ่ง

“กระทรวงพาณิชย์ได้จัดโครงการนี้ไปแล้วจำนวน 2 ครั้ง และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ เพราะมียอดสั่งซื้อและมูลค่าการซื้อขายเป็นจำนวนมาก โดยในครั้งแรกจัดขึ้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 58 มีผู้ซื้อจากต่างประเทศจำนวน 58 บริษัท จาก 17 ประเทศ เดินทางมาร่วมเจรจาการค้า มีคำสั่งซื้อสินค้ายางและผลิตภัณฑ์รวมมูลค่า 33,738 ล้านบาท ส่วนครั้งที่สองจัดขึ้นที่ กทม. เมื่อเดือน ก.พ.59 มีผู้ซื้อจากต่างประเทศรวม 147 ราย จาก 28 ประเทศ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 19,660 ล้านบาท”

พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า การจัดกิจกรรมทั้งสองครั้งช่วยเพิ่มปริมาณการใช้ยางภายในประเทศราว 785,450 ตัน ซึ่งมีทั้งยางแท่ง STR20 ยางแผ่นรมควันชั้น 3 (RSS3) น้ำยางข้น นอกจากนี้ ยังมียอดสั่งซื้อไม้ยางพารา จำนวน 22,000 ตู้คอนเทนเนอร์ (ขนาด 40 ฟุต) หมอนและที่นอนยางพารา จำนวน 100,000 ชิ้น และอะไหล่ยานยนต์ ถุงมือยาง ถุงมือแพทย์ ล้อยาง อีกเป็นจำนวนมาก

โดยครั้งล่าสุดที่เพิ่งจัดไปนั้น มีผู้ซื้อจากต่างประเทศให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น ทั้งจากจีน กลุ่มประเทศอาเซียน อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป สหรัฐฯ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา โดยมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) จะซื้อขายยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางรวม 8 ฉบับ คิดเป็นมูลค่ารวม 17,500 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการซื้อขายผลิตภัณฑ์ยางและยางพาราธรมมชาติอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นภายในงานนอกเหนือจาก MOU อีก 2,160 ล้านบาท มีกำหนดส่งมอบภายใน 1 ปี

“ท่านนายกฯ ได้เร่งรัดให้กระทรวงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศ ดำเนินการนำยางไปใช้ประโยชน์ให้สำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และรายงานให้ ครม.ทราบ เช่น การนำยางพาราไปสร้างถนน ลานกีฬา สนามเด็กเล่น หรือวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของแต่ละหน่วยงาน เพราะแม้ขณะนี้สถานการณ์ราคายางโดยรวมจะดีขึ้น แต่รัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยนำผลจากการดำเนินงานของกระทรวงมาประเมิน เพื่อวางแผนบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบต่อไป”

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ