โฆษกรัฐบาลแจงยอดเกณฑ์ทหารเข้ากองประจำการ 101,307 คน เผยชายไทยสมัครใจเป็นทหารเกินครึ่ง แนะสื่อมวลชนนำเสนอภาพรอบด้าน ไม่ควรมุ่งเน้นเพียงด้านคนผิดหวัง จนละเลยที่จะชื่นชมผู้ที่มุ่งมั่นรับใช้ชาติ

ข่าวทั่วไป Saturday April 9, 2016 14:35 —สำนักโฆษก

วันที่ 9 เมษายน 2559 พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าช่วงเวลา ตรวจเลือกทหารเข้าสู่กองประจำการใกล้เสร็จสิ้นแล้ว โดยในปีนี้มีจำนวนชายไทยที่มีอายุครบเกณฑ์เข้ารับการตรวจเลือก 355,938 นาย มียอด เข้าเป็นทหารกองประจำการ จำนวน 101,307 นาย แยกเป็น กองทัพบก 75,324 นาย กองทัพเรือ 16,000 นาย กองทัพอากาศ 8,099 นาย สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 735 นาย และกองบัญชาการกองทัพไทย 1,149 นาย

"ทั้งนี้มีชายไทยสมัครใจเป็นทหารมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดเกณฑ์ทั้งหมด ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ปกติเพราะที่ผ่านมาจะมีชายไทยสมัครใจเป็นทหารจำนวนมาก และบางพื้นที่มีจำนวนผู้ร้องขอเป็นทหารมากกว่าจำนวนเกณฑ์เสียด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ทุกครั้งที่มีการสมัครพลเรือน เข้าเป็นทหาร ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนเตรียมทหาร นักเรียนแพทย์ทหาร นักเรียนพยาบาลทหาร นักเรียนนายสิบ ไม่ว่าจะเหล่าทัพใด ตำแหน่งใด จะมีผู้มาสมัครเป็นจำนวนมาก"

พลตรีสรรเสริญ กล่าวว่า อยากขอให้สื่อมวลชนนำเสนอข้อมูลให้รอบด้านและสะท้อนภาพจริงของการรับเลือกทหารเข้าประจำการ ไม่มุ่งเน้นเพียงการเสนอข่าวคนที่ผิดหวัง หรือเหล่าคนดังที่เข้าเกณฑ์ทหาร จนละเลยการชื่นชมให้กำลังใจผู้ที่มุ่งมั่นอยากรับใช้ชาติ

ในระหว่างการเป็นทหาร นอกจากจะได้รับการฝึกร่างกายและจิตใจให้แข็งแกร่งแล้ว ยังได้รับสวัสดิการในด้านการดำรงชีพพอสมควร อาทิ เงินเดือน เบี้ยเลี้ยง ค่าครองชีพชั่วคราว รวมประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน รวมทั้งสวัสดิการการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลทหาร และคะแนนเพิ่มพิเศษในการสอบเป็นนักเรียนนายสิบ ทหารบกอีกด้วย

"รัฐบาลขอขอบคุณ ทุกเหล่าทัพที่ดำเนินการให้การเกณฑ์ทหารในปีนี้เป็นไปอย่างราบรื่น และขอให้พ่อแม่ครอบครัวทหารเกณฑ์ทุกนายได้มั่นใจว่า บุตรหลานของท่านเป็นผู้มีเกียรติ และทำหน้าที่ในฐานะลูกผู้ชายที่น่าภาคภูมิใจ

ส่วนข่าวการลงโทษทหาร กองประจำการ ด้วยการทำร้ายร่างกายนั้น เป็นความผิดชัดเจนของผู้กระทำและต้องได้รับการลงโทษสถานหนัก เพราะถือเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้ รวมทั้งขัดระเบียบและนโยบายของผู้บังคับบัญชา ที่ต้องการให้ครูฝึกส่งเสริม ความรักความสามัคคี วินัยที่จริงจังแก่ทหาร กองประจำการ โดยลงโทษได้ตามเหตุและผล ทางวินัย ซึ่งมีระเบียบหลักเกณฑ์อยู่แล้ว แต่มิใช่ด้วยการทำร้าย ซึ่งมีความแตกต่างกัน

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ