วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2544
วันนี้ เมื่อเวลา 14.45 น. ณ ห้องรับรอง 1 รัฐสภา นายหลี่ ฉางชุน สมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน เข้าเยี่ยมคารวะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางมาเยือนไทยระหว่างวันที่ 2-6 พฤษภาคม 2544 ภายหลังการกล่าวต้อนรับ ทั้งสองฝ่ายได้สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน สรุปได้ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างบุคคลระดับสูงจะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ในการช่วยพัฒนาและส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ทั้งในระดับประชาชนต่อประชาชน และระดับประเทศชาติให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่ผู้นำไทยและบุคคลระดับสูงของพรรค คอมมิวนิสจ์จีน จะได้ทำความรู้จักและสร้างความคุ้นเคยระหว่างกัน อันจะนำไปสู่ความร่วมมืออย่างใกล้ชิด และนำผลประโยชน์มาสู่ประชาชนทั้งสองประเทศต่อไป ในโอกาสเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึง กำหนดการเดินทางเยือนประเทศฮ่องกง อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 8-10 พ.ค. 44 นี้ เพื่อเข้าร่วมงาน 2001 FORTUNE Global Forum ซึ่งจะได้พบปะและสนทนากับประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน ด้วย ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีจู หรงจี ก็มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 19-22 พ.ค. 44 ในฐานะแขกของรัฐบาล นับเป็นโอกาสอันดีที่ผู้นำของทั้งสองประเทศจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ซึ่งกันและกัน
ในโอกาสนี้ นายหลี่ ฉางชุน สมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้กล่าวว่าในโอกาสที่ได้เดินทางมาเยือนไทยในครั้งนี้ ประธานธิบดีเจียง เจ๋อหมิน และนายกรัฐมนตรีจู หรงจี ได้ฝากความปรารถนาดีและความระลึกมายังนายกรัฐมนตรีด้วย พร้อมทั้งเห็นพ้องว่า มิตรภาพระหว่างจีนและไทยนั้นเสมือนญาติมิตร ทั้งสองประเทศได้มีการติดต่อเดินทางไปมาหาสู่ระหวางกันมาช้านานแล้ว รวมทั้งมีรากฐานวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาสัมพันธภาพไทย-จีน และยินดีที่รัฐบาลไทยและประชาชนไทยให้ความสนับสนุนต่อนโยบายจีนเดียว นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังรู้สึกประทับใจอย่างยิ่งที่ไทยให้ความสนับสนุนจีนในเวทีโลก โดยเฉพาะเรื่องสิทธิมนุษยชน ในเวทีการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติสมัยที่ 57 ณ กรุงเจนีวา ดังนั้น ความสัมพันธ์ไทยจีน จริงถือเป็นตัวอย่างอันดีระหว่างสองประเทศ แม้จะมีระบอบการปกครองที่แตกต่างกัน แต่จีนก็ยังเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า การบริหารประเทศภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ด้วยนโยบายที่รวดเร็ว และตอบสนองต่อผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ของไทย จะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืน
--สำนักโฆษก--
-สส-
วันนี้ เมื่อเวลา 14.45 น. ณ ห้องรับรอง 1 รัฐสภา นายหลี่ ฉางชุน สมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน เข้าเยี่ยมคารวะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางมาเยือนไทยระหว่างวันที่ 2-6 พฤษภาคม 2544 ภายหลังการกล่าวต้อนรับ ทั้งสองฝ่ายได้สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน สรุปได้ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างบุคคลระดับสูงจะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ในการช่วยพัฒนาและส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ทั้งในระดับประชาชนต่อประชาชน และระดับประเทศชาติให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่ผู้นำไทยและบุคคลระดับสูงของพรรค คอมมิวนิสจ์จีน จะได้ทำความรู้จักและสร้างความคุ้นเคยระหว่างกัน อันจะนำไปสู่ความร่วมมืออย่างใกล้ชิด และนำผลประโยชน์มาสู่ประชาชนทั้งสองประเทศต่อไป ในโอกาสเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึง กำหนดการเดินทางเยือนประเทศฮ่องกง อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 8-10 พ.ค. 44 นี้ เพื่อเข้าร่วมงาน 2001 FORTUNE Global Forum ซึ่งจะได้พบปะและสนทนากับประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน ด้วย ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีจู หรงจี ก็มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 19-22 พ.ค. 44 ในฐานะแขกของรัฐบาล นับเป็นโอกาสอันดีที่ผู้นำของทั้งสองประเทศจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ซึ่งกันและกัน
ในโอกาสนี้ นายหลี่ ฉางชุน สมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้กล่าวว่าในโอกาสที่ได้เดินทางมาเยือนไทยในครั้งนี้ ประธานธิบดีเจียง เจ๋อหมิน และนายกรัฐมนตรีจู หรงจี ได้ฝากความปรารถนาดีและความระลึกมายังนายกรัฐมนตรีด้วย พร้อมทั้งเห็นพ้องว่า มิตรภาพระหว่างจีนและไทยนั้นเสมือนญาติมิตร ทั้งสองประเทศได้มีการติดต่อเดินทางไปมาหาสู่ระหวางกันมาช้านานแล้ว รวมทั้งมีรากฐานวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาสัมพันธภาพไทย-จีน และยินดีที่รัฐบาลไทยและประชาชนไทยให้ความสนับสนุนต่อนโยบายจีนเดียว นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังรู้สึกประทับใจอย่างยิ่งที่ไทยให้ความสนับสนุนจีนในเวทีโลก โดยเฉพาะเรื่องสิทธิมนุษยชน ในเวทีการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติสมัยที่ 57 ณ กรุงเจนีวา ดังนั้น ความสัมพันธ์ไทยจีน จริงถือเป็นตัวอย่างอันดีระหว่างสองประเทศ แม้จะมีระบอบการปกครองที่แตกต่างกัน แต่จีนก็ยังเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า การบริหารประเทศภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ด้วยนโยบายที่รวดเร็ว และตอบสนองต่อผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ของไทย จะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืน
--สำนักโฆษก--
-สส-