วันนี้ (21เม.ย.59) พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงสุขภาพและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาหมอกควันในภาคเหนือ โดยเฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากหมดวาระการประกาศห้ามเผาในที่โล่งแจ้งทุกชนิด เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา และมีประชาชนบางส่วนเผาไร่ข้าวโพดในพื้นที่ป่าทางตอนใต้ของจังหวัด เพื่อเตรียมการเพาะปลูกในช่วงฤดูฝน
“ท่านนายกฯ เข้าใจดีถึงเหตุผลของเกษตรกรที่ใช้วิธีการเผา เนื่องจากเป็นวิธีที่สะดวกและลงทุนน้อย แต่อยากให้พี่น้องเกษตรกรมองอีกด้านหนึ่งด้วยว่า ผลจากการเผาที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนในวงกว้าง ไม่เฉพาะแต่พื้นที่ของตัวเองเท่านั้น เพราะหมอกควันได้แพร่กระจายไปยังพื้นที่ใกล้เคียงหรือข้ามเขตจังหวัด ส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยและสุขภาพอนามัยของประชาชน”
พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบปัญหาหมอกควันทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพราะการบังคับใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด แต่ต้องใช้การพูดคุยอธิบายให้ชาวบ้านเกิดความตระหนักมากขึ้น รวมทั้งดูแลด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนด้วย
“ส่วนกรณีที่จะมีการรวมตัวกันที่หน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ กลางเมืองเชียงใหม่ ในวันอาทิตย์ที่ 24 เม.ย.นี้ หากไม่มีการละเมิดกฎหมายหรือก่อความไม่สงบก็สามารถกระทำได้ แต่รัฐบาลอยากขอร้องให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐมีความจริงใจในการแก้ปัญหามาโดยตลอด ส่วนความสำเร็จอย่างยั่งยืนนั้นก็อยู่ที่จิตสำนึกและความร่วมมือของทุกคนที่จะคำนึงถึงความปลอดภัยร่วมกัน ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับภาครัฐแต่เพียงฝ่ายเดียว
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยจะลงพื้นที่ไปติดตามการแก้ไขปัญหาและพบปะพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ในวันที่ 27 เม.ย.นี้”
------------------
สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th