วันนี้ (12 พ.ค. 59) เวลา 14.00 น. เชค อับดุลลาห์ บิน ซายิด อัล นะห์ยาน (H.H. Sheikh Abdullah bin Zayed Al Nahyan)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฯ ในโอกาสการเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยการเดินทางมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีในการเพิ่มพูนความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเพิ่งครบรอบ 40 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์เมื่อปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฯ ต่างยินดีที่ได้ทราบว่า การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมทวิภาคีไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ครั้งที่ 1 ประสบผลสำเร็จด้วยดี ทั้งสองประเทศสามารถแสวงหาแนวทางส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในหลายมิติ อาทิ พลังงาน การค้าการลงทุน การท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีหวังว่า การประชุมดังกล่าวจะนำไปสู่ความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก้าวหน้าขึ้นตามลำดับและยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาต่อไปได้อีกมาก โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สามารถใช้ไทยเป็นประตูเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และไทยสามารถใช้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นจุดกระจายสินค้าหรือประตูทางออกของสินค้าไทยไปยังตลาดตะวันออกกลางได้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของไทยในตะวันออกกลาง และยินดีที่ทั้งสองประเทศพยายามจัดตั้งสภานักธุรกิจไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในทั้งสองประเทศ เพราะจะช่วยส่งเสริมปฏิสัมพันธ์และอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุนระหว่างภาคเอกชนระหว่างสองประเทศ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฯ ต่างหวังว่า จะได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากทั้งสองประเทศต่อไป
สถานการณ์การเมืองของไทย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความขอบคุณที่รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีความเข้าใจต่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทยและหวังว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะสนับสนุนไทยต่อไป
ความร่วมมือด้านพลังงานและอาหาร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศคู่ค้าน้ำมันอันดับ 1 ของไทย โดยเป็นแหล่งนำเข้าน้ำมันอันดับ 1 ของไทยในโลก หวังว่าทั้งสองประเทศจะสนับสนุนกันและกันในด้านความมั่นคงทางอาหารและความมั่นคงทางพลังงาน ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฯกล่าวว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ให้ความสำคัญในเรื่องความมั่นคงทางอาหารอย่างมาก ไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สามารถร่วมมือ รวมถึงแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเทคโนโลยีระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้นได้ในอนาคต
ด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฯ ต่างยินดีที่ได้ทราบว่า นักท่องเที่ยวชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยจำนวนมากและทั้งสองประเทศมีเที่ยวบินระหว่างกันหลายเที่ยวบิน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นอย่างดี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นิยมเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อรับการรักษาพยาบาล ซึ่งฝ่ายไทยก็พร้อมให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลอย่างเป็นธรรม ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฯกล่าวว่า ไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สามารถแสวงหาความร่วมมือในเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้ขยายในหลายมิติ อาทิ การส่งเสริมนักท่องเที่ยวในระดับ High-end เป็นต้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้นักลงทุนชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นอีกทางหนึ่ง
ในช่วงท้าย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฯได้กล่าวชื่นชมในความจริงจังและตั้งใจของนายกรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในประเทศ ความพยายามในการขจัดปัญหาการคอรัปชั่น และการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฯได้เชิญนายกรัฐมนตรีไปร่วมงาน World Expo 2020 รวมถึงกล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีสะดวกด้วย ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีก็ได้ฝากคำอวยพรและความปรารถนาดีไปยังประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th